ใครเจ๋งกว่า สรุปดีลเด่น "7 ทีมใหญ่ พรีเมียร์ลีก" ตลาดนักเตะ ม.ค. 2023 ทั้งขาเข้า-ขาออก

“คัดมาให้แล้ว” สรุปดีลย้ายทีมเด่นๆของ 7 สโมสรใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในตลาดนักเตะ ม.ค. ปี 2023 ทั้งขาเข้า-ขาออก

หลังปิดตลาดจำหน่ายนักฟุตบอลวันสุดท้าย ของตลาดหน้าหนาว พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดู 2022-23 โดยฤดูกาลนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกตีสถิติ ซื้อนักเตะรวมกัน2 รอบตลาด เป็นค่ามากมายก่ายกองถึง 2.8 พันล้านปอนด์

สถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานตัวเลขหลังปิดตลาดซื้อขายนักฟุตบอลวันสุดท้ายของตลาดหน้าหนาว พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 โดยซีซั่นนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกทุบสถิติ ซื้อนักเตะรวมกัน 2 รอบตลาด เป็นค่าเป็นอย่างมากถึง 2.8 พันล้านปอนด์

รายงานเจาะจงเพิ่มเติมว่า เฉพาะยอดซื้อของทีมในลีกสูงสุดในเดือน ม.ค. ทำสถิติเป็นเงิน 815 ล้านปอนด์ ในขณะที่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็บันทึกสถิติไว้ที่กว่า 1.9 พันกว่าล้านปอนด์ ยอดสุทธิทั้งหมด 2.8 พันล้านปอนด์ มากเป็น 2 เท่าของสถิติเดิม 1.4 พันล้านปอนด์ เมื่อปี 2017

7 ทีมใหญ่พรีเมียร์ลีก

วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เราสรุปการย้ายทีมที่สำคัญของ 7 ทีมใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ในตลาดนักฟุตบอลฤดูหนาวปี 2023 ที่เพิ่งจะปิดแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้

อาร์เซนอล

  • ย้ายเข้า

เลอันโดร ทรอสซาร์ (ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน) , ยาคุบ คิวิออร์ (สเปเซีย) , จอร์จินโญ (เชลซี)

  • ย้ายออก

มาร์ควินญอส (นอริช) *ยืมตัว , อัลแบร์ ซัมบี โลกงกา (คริสตัล พาเลซ) *ยืมตัว , เซดริก โซอาเรส (ฟูแลม) *ยืมตัว

เชลซี

  • ย้ายเข้า

ดาวิด ดาโทร โฟฟานา (โมลด์) , เบอนัวต์ บาดียาชีล (โมนาโก) ,อังเดร ซานโตส (วาสโก ดา กามา) , ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด) *ยืมตัว , มิไคโล มูดริค (ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์) , โนนี มาดูเอเก (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน) , มาโล กุสโต (โอลิมปิก ลียง) , เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ (เบนฟิกา)

  • ย้ายออก

จอร์จินโญ (อาร์เซนอล) , บาเชียร์ ฮัมฟรีย์ส (พาเดอร์บอร์น) *ยืมตัว , มาโล กุสโต (โอลิมปิก ลียง) *ปล่อยยืมตัวตามเงื่อนไข หลังเซ็นสัญญาถาวร , เชซาเร คาซาเดอี (เรดดิง) *ยืมตัว , จูด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ (สเปอร์ส)

ลิเวอร์พูล

  • ย้ายเข้า

โคดี กัคโป (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน)

  • ย้ายออก

เจค เคน (สวินดอน ทาวน์) , ลุค แชมเบอร์ส (คิลมาร์น็อค) *ยืมตัว , จาเรลล์ ควอนซาห์ (บริสตอล โรเวอร์ส) *ยืมตัว

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  • ย้ายเข้า

แจ็ค บัตแลนด์ (คริสตัล พาเลซ) *ยืมตัว , เวาท์ เวกฮอร์สต์ (เบิร์นลีย์) *ยืมตัว , มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (บาเยิร์น มิวนิก) *ยืมตัว

  • ย้ายออก

โชลา ชอเรทีเร (โบลตัน) *ยืมตัว , ชาร์ลี ซาเวจ (ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส) *ยืมตัว , ชาร์ลี แม็คนีลล์ (นิวพอร์ต เคาน์ตี) *ยืมตัว , อักเซล ตวนเซเบ (สโต๊ค ซิตี้) *ยืมตัว , ออนเดร มาสต์นี (พอร์ทตาดาวน์) *ยืมตัว , ดิชอน เบอร์นาร์ด (พอร์ตสมัธ) *ยืมตัว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

  • ย้ายเข้า

มักซิโม เปร์โรเน (เบเลซ ซาร์สฟิลด์)

  • ย้ายออก

ชูเอา คันเซโล (บาเยิร์น มิวนิก) *ยืมตัว พ่วงออปชันซื้อขาด , เลียม ดีแล็ป (เปรสตัน) *ยืมตัว , เกย์กี (บาเญีย) *ยืมตัว , จอช วิลสัน-เอสบรานด์ (โคเวนทรี ซิตี้) *ยืมตัว , ลุค เอ็มเบเต (โบลตัน) *ยืมตัว

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

  • ย้ายเข้า

กาแรง คูล (เซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส) , แอนโธนี กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน) , แฮร์ริสัน แอชบี (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

  • ย้ายออก

กาแรง คูล (ฮาร์ทส์) *ยืมตัว , คริส วูด (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์) *ยืมตัว , จอนโจ เชลวีย์ (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์) , คาร์ล ดาร์โลว์ (ฮัลล์ ซิตี้) *ยืมตัว

สเปอร์ส

  • ย้ายเข้า

อาร์เนาท์ ดันจูมา (บียาร์เรอัล) *ยืมตัว , จูด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ (เชลซี) , เปโดร ปอร์โร (สปอร์ติง ลิสบอน) *ยืมตัว พ่วงออปชันซื้อขาด

  • ย้ายออก

ไบรยัน คิล (เซบีญา) *ยืมตัว , ดีเจด สเปนซ์ (แรนส์) *ยืมตัว , ฮาร์วีย์ ไวท์ (ดาร์บี เคาน์ตี) *ยืมตัว , แมตต์ โดเฮอร์ตี (แอตเลติโก มาดริด) , อดัม เฮย์ตัน (บาร์นสลีย์)

ตลาดนักเตะ ม.ค. 2023

สรุปตลาดหน้าหนาวพรีเมียร์ ลีก อังกฤษฤดูกาล 2022/23

สรุปตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนนักฟุตบอลหน้าหนาวฤดูกาล 2022/23 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ แมนยูฯ อาร์เซน่อล คว้านักเตะเฉียดฉิวเส้นตาย ด้านเชลซีตีสถิติพรีเมียร์ลีกคว้าเอ็นโซ่

ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนนักฟุตบอลตอนหน้าหนาวของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดลงวันนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลาดซื้อขายครั้งนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกต่างเสริมแกร่ง เพื่อเตรียมรับศึกในช่วงครึ่งด้านหลังของฤดูกาล อาทิเช่นการที่

เชลซี ดึงตัว มิไคโล มูดริค ด้วยค่าตอบแทนกว่า 100 ล้านยูโร หลังมีข่าวร่วมเดือนกับ

อาร์เซน่อล อริร่วมกรุงลอนดอน หรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยืมมาร์เซล ซาบิตเซอร์ กองกลางตัวเก่งทีมชาติออสเตรีย ในช่วง 24 ชั่วโมงสุดท้าย

จะมองเห็นได้ว่าทีมใหญ่ชอบเป็นการเสริมทัพเพื่อเติมเต็มส่วนที่ทีมขาดและปล่อยยืมนักฟุตบอลดาวรุ่งให้ออกไปพบประสบการณ์ ในขณะที่ทีมเล็กจะมีทั้งการปลดปล่อยยืมนักเตะดาวรุ่งและการเสริมแข็งเพื่อให้ฟาดแข้งกับทีมใหญ่ได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

โดยทีมที่มีข่าวในตอนโค้งสุดท้ายหนีไม่พ้นดีล จอร์จินโญ่ ย้ายจากเชลซี ซบอาร์เซน่อล ทีมเต็งแชมป์ ด้วยค่าตอบแทนรวม 12 ล้านปอนด์ และการขอยืมตัวมาร์เซล ซาบิตเซอร์ จากบาเยิร์น มิวนิค สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแบบเซอร์ไพรส์ ในขณะที่ลิเวอร์พูลซื้อแค่เพียง โคดี้ กักโป ปีกตัวจี๊ดจากพีเอสวีรายเดียวเพียงแค่นั้น

ส่วนเชลซีทำลายสถิติพรีเมียร์ลีก ด้วยการทุ่มหมดตัว กว่า 121 ล้านยูโร กระชากตัว เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดส กองกลางดีกรีทีมชาติ อาร์เจนติน่า มาจากเบนฟิก้า หลังมีข่าวการพูดจาร่วมเดือน

ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อแค่ดาวรุ่งอย่าง แม็กซิโม่ เปอร์โรนี จาก เบเลซ ซาร์สฟิลด์ เพียงรายเดียวเพียงแค่นั้น เนื่องจากว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ปรึกษาแมนฯ ซิตี้เห็นว่าทีมลงตัวแล้ว

เรอัล มาดริด ได้แค่เจ๊า โซเซียดัด รั้งรอง จ่าฝูงลาลีกา ตาม บาร์เซโลนา 5 แต้ม

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทำได้เพียงแค่ เปิดบ้านเสมอ เรอัล โซเซียดัด ในศึกลา ลีกา สเปน ตามหลัง จ่าฝูง บาร์เซโลนา 5 คะแนน

การแข่งขันฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ฤดู 2022-23 เมื่อคืน วันอาทิตย์ที่ 29 เดือนมกราคม 66 คู่ที่น่าสนใจ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด อันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดัด

เปิดตัวครึ่งแรก นาทีที่ 17 เรอัลมาดริด ได้ลุ้นจากลูกยิงของ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่บอลพุ่ง หลุดเสาออกไป

ต่อจากนั้นนาทีที่ 32 เรอัลมาดริด ได้ลุ้นอีกที โอกาสนี้เป็น โทนี โครส ที่ได้ซัด แต่นายด่านโซเซียดัดปัดออกไปได้หวุดหวิด และต่อมา 3 นาที คาริม เบนเซมา ก็ยิงไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร

เข้าสู่ช่วทดเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 ราชันชุดขาว น่าขึ้นนำ เมื่อ คาริม เบนเซมา จ่ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ พาบอลไปยิงในเขตโทษ แต่ก็ยังติดเซฟของ เรมิโร ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง เรอัลมาดริด พยายามหาจังหวะทำคะแนน แต่ยิงไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร หรือยิงออกกันไปเอง จนกระทั่งจบ 90 นาที เรอัลมาดริด ทำได้เพียงแค่เสมอ เรอัล โซเซียดัด 0-0 มี 42 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลนา 5 คะแนน

รั้งรองจ่าฝูงลาลีกา

เรอัล มาดริด เจาะไม่เข้า เจ๊าจืด โซเซียดาด 0-0 ตาม บาร์ซ่า 5 แต้มศึกลาลีกา

“ราชันชุดขาว” เรอัลมาดริด เปิดบ้านเจ๊า เรอัล โซเซียดาด 0-0 ตามหลัง บาร์เซโลน่าอยู่ 5 แต้ม

ศึกฟุตบอล ลาลีกา สเปน ที่ สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อคืนนี้ วันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ระหว่าง ราชันชุดขาว เรอัลมาดริด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดาด

ผลปรากฎว่า ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0

การทำศึกคราวนี้มีผลทำให้ ราชันชุดขาว เรอัลมาดริด มี 42 คะแนน รองจ่าฝูง ด้าน เรอัล โซเซียดาด มี 39 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของตาราง

เรอัล มาดริด

“มาดริด”เท้าบอด! ถูก”โซเซียดาด”บุกมาแบ่งแต้ม

ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ประเทศสเปน ในการแข่งขันฟุตบอล ลาลีก้า ฤดู 2022-2023 คืนวันที่ 29 เดือนมกราคม66 ระหว่างทีม “เรอัลมาดริด” พบกับทีม “เรอัล โซเซียดาด” เริ่มเกมการแข่งขัน นาทีที่ 14 มาดริด เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะที่วินิซิอุสได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาจับแล้วแตะลอดขา ซูเบลเดีย กระชากเข้าไปในกรอบ ก่อนได้เหลี่ยมแปด้วยขวา เรียดหลุดเสาสอง ไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 17 โซเซียดาดก็เกือบได้ประตูเช่นกัน จังหวะทีฝั่งมาดริดสกัดบอลไม่ขาด แล้วมาเข้าทาง อิญาร์ราเมนดี้ ได้วางเท้ายิงด้วยซ้าย ทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งเรียดแรงถาก หลุดเสาสองไปนิดหนึ่ง

เริ่มเกมครึ่งหลัง นาทีที่ 61 โซเซียดาด ได้โอกาสอีกครั้ง จากจังหวะ คุโบะ ได้บอลทำชิ่งหลุด เข้าไปในกรอบฝั่งขวา ก่อนที่เขาจะเอียงตัวแปด้วยซ้าย ไปติดเซฟคูร์กตัวส์ นาทีที่ 71 ราชันชุดขาวสบโอกาสทอง

จังหวะต่อบอลกันมาสวยก่อนที่ เซบาญอส จะสะกิดให้ วินิซิอุส ดึงหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาบรรจงชิพด้วยขวา แต่ยังไปติด เรมิโร่ ที่ยกมือปัดเอาไว้ได้หวุดหวิด จบเกมเสมอกันไป 0-0 โดยมาดรีด ยังรั้งรองจ่าฝูง มีแต้มตามหลัง บาร์เซโลน่า เป็น 5 คะแนน หลังจากแข่งไป 18 นัดเสมอกัน

ศึก “โมโตจีพี” เตรียมเปิดฤดูกาลใหม่ Official Test 2 สนาม ที่มาเลเซีย-โปรตุเกส

ศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” เตรียมเปิดฤดูใหม่ 2023 ก่อนหน้านั้นจะมี Official Test กันก่อน 2 สนาม ที่เซปัง อินเตอร์เนเชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย 10-12 ก.พ. จากนั้นไปที่ออโตโดรโม ประเทศโปรตุเกส 11-13 มี.ค. และ 17-20 มี.ค. (รุ่นโมโต 2-โมโต 3) แล้วจะเริ่มแข่งสนามแรกของฤดูที่สนามเดียวกันนี้ในวันที่ 24-27 มี.ค.

ความรู้จากเพจ Yamaha Thailand Racing Team ในทุกๆรายการแข่งขัน จะแบ่งรอบการขี่ลงสนามออกเป็น 4 รอบคือ รอบการฝึกซ้อม (Free Practice) รอบการควอลิฟาย หรือ (Qualifying) รอบการวอร์มอัป (Warm up) และ รอบการแข่งขันจริง (Race) ซึ่งจะเป็นตัววินิจฉัยผลงานของนักแข่งขันและทีมในสนามนั้นๆ

แล้วทีนี้ การขี่ลงสนามในรอบ Free practice และ Qualifying นั้นมีส่วนสำคัญอย่างไร…รอบการฝึกซ้อม (Free Practice) จะเป็นช่วง ของการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนักแข่ง และทีมงาน เพื่อที่จะหาข้อมูลทั้งหมดทุกอย่าง ตั้งแต่สภาพสนาม ตัวรถแข่ง การเซตติ้งรถ การทดลองอุปกรณ์ อื่นๆรวมถึงการทดลองสเปกยางต่างๆ เพื่อให้นักแข่ง และตัวรถพร้อมที่สุดสำหรับสนามนั้นๆ

รอบการควอลิฟาย (Qualifying) ถือได้ว่าตอนที่สำคัญก่อนการแข่งขัน เนื่องจากว่าในการควอลิฟายจะเป็นการจับเวลาเพื่อจัดตำแหน่งในกริดสตาร์ต ซึ่งนักแข่งทุกคนจะมุ่งเน้นการควอลิฟายอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าได้การออกสตาร์ตที่อยู่ข้างหน้า ก็จะดีกว่าในเรื่องของการเลือกไลน์ ซึ่งต่างจากการออกสตาร์ตจากข้างหลัง ที่เสียเปรียบจากการเลือกไลน์แล้ว ยังต้องหาไลน์ในการแซงคันหน้าอีกด้วย นอกนั้นระยะห่างของแต่ละกริด ก็ยังสร้างการได้เปรียบและเสียเปรียบด้วยเหมือนกัน

รอบการวอร์มอัป (Warm up) โดยรอบการวอร์มอัป จะถือเป็นการทดสอบรถ และการคอนเฟิร์มสเปกการเซตติ้งต่างๆ ครั้งสุดท้าย จากนักแข่งให้กับทีมงานก่อนรอบการแข่งขันจริง

การแข่งขัน (Race) จะเป็นการตัดสินต่อสิ่งที่ดำเนินงานมาตลอด ตั้งแต่ตอนฝึก ซึ่งนักแข่งทุกคนควรจะมีสมาธิ และการตัดสินใจ เพื่อที่จะทำผลงานที่ดีที่สุดให้กับตนเองและทีม

Ducati เปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพี

Ducati เปิดตัวทีมแข่ง “โมโตจีพี” ลุยฤดูกาล 2023 “บัญญาญ่า” ใช้เลขรถเบอร์ “ 1 “

เปิดตัวออกมาเรียบร้อยแล้วสำหรับดูคาติ พร้อมลุยศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2023 กับนักแข่งขันประจำทีมอย่าง “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” เปลี่ยนมาใช้รถเลข 1 และ “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่สบโอกาสขึ้นมาขี่ให้กับทีมโรงงาน

ดูคาติ เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ยามาฮ่า และ เกรซซินี ที่ได้เปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพี เผยโฉมรถแข่ง และนักแข่งของทีมสำหรับลุยศึกการแข่งขัน รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2023 โดยนักแข่งประจำทีมเป็น “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” แชมป์โลกโมโตจีพี คนปัจจุบัน ซี่งในปีนี้จะใช้หมายเลขรถแข่งหมาย 1 เป็นหมายเลขที่แชมป์โลกคนปัจจุบันแค่นั้นที่สามารถใช้ได้ และอีกคนก็คือ ดาวรุ่งมาแรงอย่าง “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่ย้ายมาจากทีมอิสระ เกรซซินี เรซซิ่ง

สำหรับตัวรถแข่งยังคงใช้ลายกราฟิกแบบเดิมที่เป็นสีแดง รูปลักษณ์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่พอเหมาะพอควรจากปีที่แล้ว โดยจากเดิมแฟริ่งรอบคันนั้นใหญ่ขึ้นดูถึก และบึกบึน มาปีนี้เหมือนทำให้ดูผอมบางลง ซึ่งเป็นรถ ที่ได้รับการพัฒนามาจากปีที่แล้ว พร้อมทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย

ผลงานฤดูกาลที่แล้วของทีมดูคาติ สามารถครองแชมป์ประเภททีม ประเภทผู้ผลิต รวมถึงประเภทนักแข่ง เรียกได้ว่าเก็บเรียบ สำหรับปีนี้จะเป็นการป้องกันแชมป์ของดูคาติ ที่ดูเหมือนนักแข่งแต่ละคน ที่ใช้รถของดูคาติความสามารถระดับพระกาฬทั้งนั้น โดยยิ่งไปกว่านั้นทีมโรงงานที่ได้ “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่โชว์ผลงานได้อย่างซาบซึ้งใจด้วยการคว้าแชมป์ทั้งหมด 4 ครั้ง 6 โพเดี้ยม จบอันดับที่ 3 ในคะแนนสะสมรายปี

ส่วนเรื่องเลข 1 ของ “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” นักแข่งของ ดูคาติ คนที่ 2 ที่มาใช้หมายเลขดังกล่าว ก่อนหน้านี้มี “เคซี่ สโตนเนอร์” ที่ใช้ในปี 2008 นักแข่งรุ่นพี่ที่เคยลำดับที่นี้มาแล้วตอนที่คว้าชัยชนะโลกตอนอยู่ดูคาติเมื่อปี 2007

Monster Energy Yamaha

เปิดตัวทีมแข่งขัน โมโตจีพีMonster Energy Yamaha พร้อมนักแข่งประจำทีม

ยามาฮ่าเป็นทีมแข่งโมโตจีพี ทีมแรกที่ได้เปิดตัวรถ และนักแข่งประจำทีม สำหรับลุยศึก จักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกประจำฤดูกาล 2023

โดยงานเปิดตัวนี้ยามาฮ่าได้ใช้เวทีที่ประเทศอินโดนีเซียสำหรับการเปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพีอย่างเป็นทางการ นำโดยประธานฝ่ายเรซซิ่งอย่าง “ทาคาฮิโร่ ซูมิ” ตามมาด้วยผู้จัดการทีมอย่าง “ลิน จาร์วิส” และผู้อำนวยการทีมแข่งขัน “มัสซิโม่ เมอเรกัลลี” แล้วที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดเลยก็เป็นนักแข่งประจำทีมอย่างแชมป์โลกปี 2021 “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” และเพื่อนร่วมทีม “ฟรานโก้ มอบิเดลลี”​

สำหรับตัวรถแข่งโมโตจีพี Yamaha M1 ปี 2023 ยังคงใช้ลายกราฟิกคล้ายเดิมปรับแต่งลวดลายใหม่บางส่วน ที่มากับพันธมิตรสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Monster Energy เหนือสิ่งอื่นใดทุกสายตาจับจ้องไปที่กำลังของเครื่องจักร M1 ตัวใหม่นี้จะมีความแรงเยอะขึ้นเรื่อยๆตามที่ “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” ต้องการหรือเปล่า

ซึ่งยามาฮ่านั้นได้ดึงตัว “ลูก้า มาร์โมรินี” อดีตผู้ออกแบบเครื่องยนต์กลไกรถแข่ง F1 ให้กับเฟอร์รารี่และโตโยต้า มาเพื่อช่วยดึงพละกำลังของ M1 ให้แรงมากเพิ่มขึ้น ต้องมาดูกันว่าการทดสอบช่วงวินเทอร์เทสก่อนเปิดฤดูกาลที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย จะออกมายังไง

ในการเปิดตัวทีมแข่งโมโตจีพี ทีมต่อไปจะเป็นคิวของทีม Gresini Racing ในวันเสาร์ที่ 21 เดือนมกราคมนี้ มารอติดตามกันว่าสีสันของรถแข่งนั้นจะแปรไปไหม

6 ปัจจัยชี้ชัด อาร์เซน่อล ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก

หลังจากศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ผ่านมาถึงครึ่งทาง อาร์เซน่อล ยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้โดยกวาดแต้มไปแล้ว 50 แต้มจากการลงสนาม 19 นัด

จากผลงานนัดล่าสุดที่เปิดบ้านพิชิต แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ทีม ปืนใหญ่ ขยับหนี แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงเป็น 5 แต้ม และลงบู๊น้อยกว่า เรือใบสีฟ้า หนึ่งนัด

แน่นอนว่าถึงแม้เส้นทางของซีซั่นจะยังเหลืออีกยาวไกล แต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่าสาวก เดอะ กันเนอร์ส ฝันถึงการครอบครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกกันแล้วนับตั้งแต่พวกเขาได้โทรฟี่ใบนี้มาเชยชมหนสุดท้ายในซีซั่น 2003/04

จะอย่างไรก็ตาม มันมีสัญญาณแสดงว่าอาร์เซน่อล จะบรรลุความสำเร็จในฤดูกาลนี้ อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยเหตุผล 6 ข้อดังต่อไปนี้

1. แผงหลังอย่างหนา อาร์เซน่อล

กาลครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยหล่นวาทะว่า “เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับทำให้ท่านได้แชมป์”

เท่าที่ผ่านมา อาร์เซน่อลมีจุดอ่อนในเรื่องเกมรับมาตั้งแต่ช่วงท้ายการคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ อีกทั้ง อูไน เอเมรี่ ก็จัดการกับปัญหาตรงนี้ไม่สำเร็จ แต่ไม่ใช่ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งทำให้ทีมมีเกมรับที่แข็งโปก

ดังจะมีความเห็นว่านาทีนี้ เดอะ กันเนอร์ส เสียประตูใน พรีเมียร์ลีก น้อยที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก นิวคาสเซิ่ล เพียงแค่นั้นโดยพวกเขาปล่อยให้คู่แข่งยิงประตูได้เพียงแค่ 16 ลูกจาก 19 นัด

จากความยอดเยี่ยมดังกล่าว อาร่อน แรมสเดล นายทวารมือกาว เหมาะได้รับคำกล่าวชมเชยไม่น้อยไปกว่าบรรดาแผงหลังเนื่องด้วยเขามีคลีนชีต 9 นัด ด้อยกว่าแค่ นิค โป๊ป นายทวารทีม สาลิกาดง รายเดียวเท่านั้นที่เก็บคลีนชีตได้มากกว่า

เว้นแต่ความเหนียวหนึบของ แรมสเดล แล้ว คู่กองหลังอย่าง วิลเลี่ยม ซาลิบา กับ กาเบรียล มากัลเญส ก็ติดต่อประสานงานกันได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ เบน ไวท์ กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สองฟูลแบ็คต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ

อีกทั้งจากสถิติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าทีมที่มีเกมรับหนักแน่นมักได้แชมป์ไปครอบครองได้ในท้ายที่สุด ด้วยเหตุนั้นแล้ว อาร์เซน่อลจึงมีคุณสมบัติข้อนี้อยู่ในตัวอย่างชัดเจน

พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล

2. ฟอร์มนัดเหย้า อาร์เซน่อล

นับตั้งแต่บอกลา ไฮบิวรี่ มาเล่นที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในปี 2006 อาร์เซน่อลแทบจะไม่ค่อยได้ฉลองใหญ่กันสักเท่าไหร่เพราะเหตุว่ากันว่าบ้านหลังตอนนี้ของพวกเขามีบรรยากาศที่เทียบกับบ้านหลังเก่าไม่ได้

อย่างไรก็ตาม หลังการเข้ารับตำแหน่งกุนซือของ อาร์เตต้า เขาสามารถเนรมิตให้สังเวียนแข้ง ที่ล้ำยุคเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศ ที่อึกทึก และส่งผลให้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แปลงเป็นสมรภูมิที่น่ายำเกรงของทีมคู่แข่งไปแล้ว

จากการลงเล่นเกมลีกนัดเหย้า 9 นัดในฤดูกาลนี้ เดอะ กันเนอร์ส ส่งผลงานชนะ 8 เสมอ 1 เก็บได้ทั้งหมด 25 แต้มจาก 27 แต้มโดยในปริมาณนี้เป็นเกมปลิดชีพทีมใหญ่อย่าง สเปอร์ส , ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม

แค่นี้ยังไม่เพียงพอ ครึ่งฤดูกาลที่พ้นไป ทีมของ อาร์เตต้า ลงเล่นนัดเยือนมากยิ่งกว่านัดเหย้าด้วย มันจึงมีความหมายว่าพวกเขาเหลือเกมในบ้านช่วงครึ่งฤดูกาลหลังมากกว่าเกมเยือนรวมทั้งหมด 10 นัดด้วยกัน

3. สภาพจิตใจ

ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าเรื่องของหัวจิตหัวใจเปรียบเสมือนจุดอ่อนที่ทำให้ อาร์เซน่อล ร้างราจากการบรรลุผลในนับเป็นเวลาหลายปีหลัง

สำหรับหัวข้อนี้ ไม่ต้องดูไปไกลเลย เนื่องมาจากซีซั่นก่อนอาร์เซน่อล ล้มฟุบในโค้งสุดท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ และมีอันจะต้องเสียโควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ สเปอร์ส ทีมคู่แค้นจนได้

“เราไม่ดีพอในหลายปีหลังต่อการร่วมลุ้นคว้าแชมป์ มันเป็นสิ่งที่เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราทำได้ แต่คำพูดไม่มีความหมาย เราต้องลงมือทำในสนาม” อาร์เตต้า เอ่ย

“เราต้องมีความสมดุลย์ของสภาพร่างกายและจิตใจ มันเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นของทีม คุณจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ”

“หากปราศจากสิ่งนี้ คุณจะไม่มีทางต่อสู้อย่างยาวนานเป็นเวลา 11 เดือนได้เลย และเราต้องสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาในทีม”

ถึงบัดนี้ อาร์เตต้า ไปถึงเป้าหมายแล้วจากหลักฐานการนำทีมบุก ไปเก็บสามแต้มได้อย่างไม่ทุกข์ยากลำบากทั้งเกมเยือน เชลซี และ สเปอร์ส ในซีซั่นนี้

ช่วงเวลาเดียวกัน พวกเขายังแซงชนะ เวสต์แฮม ได้ด้วย รวมทั้ง ฟูแล่ม และ แมนฯ ยูไนเต็ด กับการทำประตูชัยในช่วงท้ายเกมใส่ เจ้าสัวน้อย และ ผีแดงทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ไม่เคยกลับสู่เกมได้เลยหลังเสียประตูก่อน หากแต่วันนี้นายทัพ ปืนใหญ่ มีพลังแฝงอย่างที่มองเห็น

เวลาเดียวกัน มั่นใจว่าการย้ายมาของทั้ง กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ อดีตสองดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งบรรลุผลสำเร็จได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ เรือใบสีฟ้า มาแล้วช่วยจุดประกายให้ห้องแต่งตัวของ อาร์เซน่อล ให้มีสภาพจิตใจที่หนักแน่นเหมือนกัน

4. ความยอดเยี่ยมของ โอเดการ์ด และ ซาก้า

เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ สำหรับทุกทีมที่คว้าแชมป์ซึ่งต้องมีนักเตะ ที่ร่ายเพลงแข้งได้อย่างสุดยอดเยี่ยมพร้อมๆกันอย่างต่ำสองราย และสำหรับ อาร์เซน่อล ชุดนี้พวกเขามี มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บูคาโย่ ซาก้า เป็นตัวชูโรง

จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 19 นัด ซาก้า ซึ่งพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรุดหน้าไปมากในระยะหลังส่งผลงานยิงได้ 7 ประตูและ 7 แอสซิสต์

ด้านกัปตันทีม โอเดการ์ด เปลี่ยนเป็นจอมทัพของทีม ปืนใหญ่ สุดกำลังแล้วในฤดูกาลนี้จากการระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่องพาทีมกำชัยเป็นว่าเล่น

โดยเหตุนี้แล้ว ซาก้า จึงมีลุ้นครอบครองรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ขณะที่ โอเดการ์ด ก็คงจะได้ลุ้นซิวรางวัลใหญ่ด้วยด้วยเหมือนกัน

“เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อย่าเข้าใจผมผิด หาก ฮาลันด์ ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ อาร์เซน่อล ได้แชมป์ลีก โอเดการ์ด จะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีสำหรับผม” ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เอ่ยออกมาเมื่อไม่นาน

ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก

5. มิได้เล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

เกิดเรื่องเสียใจอย่างแรงที่ อาร์เซน่อลวืดการคว้าอันดับท็อปโฟร์เมื่อซีซั่นก่อน แต่สำหรับซีซั่นนี้พวกเขาเป็นไปไม่ได้ปล่อยให้โควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก หลุดมือแน่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วทีมลูกหนังแห่งกรุงลอนดอนจะเข้าเส้นชัยซิวแชมป์ลีกได้เสร็จหรือไม่ก็ตาม

ต่อการพลาดโควต้าดังกล่าว แปลงเป็นเรื่องดีเหมือนกันเพราะว่า อาร์เซน่อล ไม่มีความจำเป็นต้องทุ่มสมาธิให้กับศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์เหมือนกับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งจะทำให้ทีม ปืนใหญ่ เน้นผลลัพธ์ของเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเต็มที่

และที่สำคัญ ไม่ใช่ความลับแม้แต่น้อยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กระหายพา เรือใบสีฟ้า คว้าถ้วยหูใหญ่มาครองเป็นยุคแรกให้ได้เพราะเหตุว่ามันเป็นโทรฟี่ใบสุดท้ายที่เขายังเอามามอบให้กับทีมเงินถังไม่เป็นผลสำเร็จ

ถึงเวลานี้ แม้ กวาร์ดิโอล่า ยังหวังป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่เชื่อเถอะว่าแม้แลกได้ เขาหวังพาทีมซิวถ้วยหูใหญ่มาครองมากกว่าซึ่งบางทีอาจเอื้อประโยชน์ให้กับ อาร์เซน่อล ไปโดยปริยาย

ในทางกลับกัน แม้ เดอะ กันเนอร์ส จะต้องลงเล่นเกมกลางอาทิตย์ในถ้วย ยูโรปาลีก แต่กุนซือสแปนิชไม่คิดเอาจริงเอาจังอยู่แล้วกับการโรเตชั่นทีมเพื่อเก็บความสดเอาไว้ไล่ล่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นหลัก

6. รอคอยการคัมแบ็คของ เชซุส

อาการบาดเจ็บของ กาเบรียล เชซุส ในศึก ฟุตบอลโลก ถูกมองว่าจะบ่อนทำลายจังหวะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซน่อล

แต่เอาเข้าให้จริงๆการร้างสนามไปนานของดาวยิงทีมชาติ บราซิล ไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียต่อ อาร์เซน่อลเลยหากแม้แต่น้อยในเมื่อพวกเขามี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ฉายฟอร์มเด็ดทำประตูในลีกได้ 4 ลูกจาก 5 นัดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ฟุตบอลลีกกลับมาฟาดแข้งกันอีกรอบ รวมทั้งสองประตูในเกมสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ด้วย

อย่างไรก็แล้วแต่ อาร์เซน่อลกำลังคอยการกลับมาของ เชซุส อย่างใจจดใจจ่อเพราะเขากระทุ้งประตูให้ทีมไปแล้ว 5 ลูก และ 6 แอสซิสต์จากการลงเล่นเกมลีก 14 นัดก่อนผละไปรับใช้ชาติ

ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว หาก เชซุส ฟิตกลับมาลงสนามเมื่อไหร่ มันก็เปรียบได้ดั่ง อาร์เซน่อลได้นักเตะใหม่เพิ่มเติมรายซึ่งจะก่อให้พวกเขามีความน่าเคารพนับถือมากยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ ศึก บอลโลก 2022 ทำให้ขุนพลของ กวาร์ดิโอล่า หมดพลังไปไม่น้อยจากการลงเล่นที่ กาตาร์ รวมกันเป็นปริมาณ 4,572 นาที

ผิดกับอาร์เซน่อล ซึ่งนักเตะของ อาร์เตต้า ลงเล่นให้แผ่นดินกำเนิดรวมกันแค่ 1,700 นาที และมันจะนำมาซึ่งการทำให้พวกเขามีความสดใหม่เหนือกว่า แมนฯ ซิตี้ อย่างแน่แท้

สรุปข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะ วันนี้ 17 มกราคม ในศึก ฟุตบอล ทุกลีก

สรุปทุกหัวข้อข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่สำคัญ ของวงการฟุตบอล ในรอบวันของบรรดา บิ๊กทีมในศึก ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ลาลีกาสเปน, กัลโช เซเรีย อา อิตาลี, ลีกเอิงฝรั่งเศส และ บุนเดสลีกาเยอรมัน

ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ประกาศเปิดตัว ดานิโล กองกลางชาวบราซิลจาก พัลไมราส มาร่วมทีมด้วยค่าตอบแทน 16 ล้านปอนด์โดยจะเซ็นสัญญายาว 6 ปีครึ่งด้วยกัน – OFFICIAL

หงส์แดง ต้องการจะเซ็นสัญญากับทั้ง จู้ด เบลลิงแฮม กองกลางจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ มาเธอุส นูเนส มิดฟิลด์จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ในตอนซัมเมอร์หน้า – พอล จอยซ์ (เดอะ ไทม์)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มมีการเสี่ยงที่อาจจะจะต้องเสีย ดาวรุ่งพุ่งแรง อย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช หลังจากสัญญาที่เหลืออีกไม่ถึง 18 เดือน แต่การเจรจาค่าแรงยัง ตกลงกันมิได้จากเดิมที่รับอยู่ เพียงแค่ 7,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่ง ปีศาจแดง พยายามจะยื่นข้อเสนอที่ 20,000 ปอนด์ แต่ถูกปฏิเสธไป โดยมี ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ที่พร้อมจะมอบข้อเสนอแนะก้อนโตถ้าเกิดนักฟุตบอลต้องการจะย้ายทีม – มิเกล เดลานีย์ (อินดิเพนเดนซ์)

นิวคาสเซิล กำลังมีความสนใจในตัว 3 แข้ง เชลซี ประกอบด้วย รูเบน ลอฟตัส ชีค คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์ และ ฮาคิม ซิเยค

ลีดส์ ยูไนเต็ด เตรียมจะยื่นข้อเสนอ ครั้งใหม่มูลค่ามากยิ่งกว่า 22 ล้านปอนด์ให้กับ อองเชร์ ไตร่ตรองแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว อัซซาดีน อูนาฮี

สกอตต์ แมคโทมิเนย์ เริ่มกลุ้มใจเกี่ยวกับจังหวะ สำหรับในการลงสนามกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทามกลางข่าวเกี่ยวพันกับ นิวคาสเซิล – ลุค เอ็ดเวิร์ตส์

อาร์เซนอล พร้อมจะยื่นข้อเสนอราว 70 ล้านปอนด์ให้กับ เวสต์แฮม แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว ดีแคลน ไรซ์ ในตอนซัมเมอร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมจะขึ้นค่าเหนื่อยให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในสัญญาฉบับใหม่จากเดิม 200,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ แต่พวกเขาไม่ต้องการที่ทำลายเพดานที่ตั้งไว้ที่ 300,000 ปอนด์ซึ่งบางทีอาจจะยังน้อยเกินไปสำหรับสตาร์ฟอร์มแรงรายนี้ – แมนเชสเตอร์ อีฟเวนิง นิวส์

วูล์ฟแฮมป์ตัน บรรลุกติกาค่า 4.5 ล้านปอนด์สำหรับในการคว้าตัว ปาโบล ซาราเบีย จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แล้ว โดยนักฟุตบอล กำลังเดินทางมายัง อังกฤษ

เชลซี มีแผนสำหรับการจะคว้าตัว มอยเซ ไซเซโด้ กองกลางของ ไบรท์ตัน ที่ถูกตั้งค่าตัวไว้ราว 75 ล้านปอนด์โดยที่ สิงห์บลู พร้อมจะเปิดพูดจาข้อแนะนำแรกที่ 65 ล้านปอนด์

ไบรท์ตัน ปฏิเสธคำแนะนำของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่ขอซื้อ เลอันโดร ทรอสซาร์ด ที่ 12 ล้านปอนด์

เอฟเวอร์ตัน นิวคาสเซิล และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กำลังให้ความสนใจในตัว ปีโร ฮินคาพี กองหลังชาวเอกวาดอร์วัย 21 ปี

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กระโดดร่วมวงล่าตัว อาร์นัลต์ ดันจูมา ปีกตัวเก่งของ บียาร์เรอัล ด้วยสัญญายืมตัว

ลีดส์ ยูไนเต็ด กำลังมีความสนใจในตัว เซนน์ ลัมเมนส์ ผู้รักษาประตูวัย 20 ปีของ คลับ บรูช

อาร์เซนอล กำลังให้ความสนใจในตัว ฟาคุนโด้ ตอร์เรส ปีกวัย 22 ปีชาว อุรุกวัย ของ ออลันโด้ เอฟซี

อาร์เซนอล เปลี่ยนเป้าหมาย ในแดนหน้ามาเป็น ดูซาน วลาโฮวิช แผงหน้าจาก ยูเวนตุส แทนหลังจากพลาดการจับตัวได้ มิเคย์โล มูดริค

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเปิดสนทนากับ อินเตอร์ มิลาน เพื่อขอซื้อตัว เดนเซล ดุมฟรีส์

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความสนใจในตัว อาร์นัลต์ ดันจูมา ปีกของ บียาร์เรอัล

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาร์เซนอล และ นิวคาสเซิล เป็นสามทีมที่พึงพอใจในตัว วิคเตอร์ โอซิเมน แนวรุกจาก นาโปลี

เอเยนต์ มาร์โก รอยส์ ถูกพบว่าเดินทางมายังเมืองแมนเชสเตอร์ ท่ามกลางข่าวลือการย้ายออกจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซัมเมอร์นี้

ลาลีกาสเปน

ตลาดซื้อขายนักเตะ ลาลีกาสเปน

เมมฟิส เดปาย รับรองว่าเขาจะไม่ย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ในเดือดมกราคมนี้ แต่มีเป้าหมายอยู่ที่ แอตเลติโก้ มาดริด

เริ่มมีการตั้งปัญหาเกี่ยวกับอนาคตของ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า กองกลาง ดาวรุ่ง ของฝรั่งเศส ที่ดูเหมือน จะไม่อยู่ในกลยุทธ์ทำทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ

บาร์เซโลนา พร้อมจะปล่อยตัวปล่อยใจ ราฟินญา ออกมาจากทีมภายในเดือนมกราคมนี้ แต่ก็ต้องได้ค่าตัวมากยิ่งกว่า 100 ล้านปอนด์เท่านั้น – เดลี เมล

ตลาดซื้อขายนักเตะกัลโช เซเรีย อา อิตาลี

เฮลลาส เวโรนา ประกาศเปิดตัวสองนักฟุตบอลใหม่ เจย์เดน บราฟ กองหน้าวัย 20 ปีจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เดโยไวซิโอ ซีฟุค แบ็คขวาจาก แฮร์ธา เบอร์ลิน มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว – OFFICIAL

ดีลสลับขั่วระหว่าง มาร์เซโล โบรโซวิช ของ อินเตอร์ มิลาน กับ ฟรองค์ เคซิเย ของ บาร์เซโลนา ขึ้นอยู่กับตัว เคซิเย ว่าสนใจจะกลับไปค้าแข้งในอิตาลีอีกครั้งไหม – ดิ มาร์ซิโอ (สกาย สปอร์ตส์)

ลีกเอิงฝรั่งเศส

ตลาดซื้อขายนักเตะลีกเอิงฝรั่งเศส

ตูลูส เปิดตัว กาเบรียล ซูโซ แบ็คซ้ายจาก โคโล-โคโล มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว อย่างเป็นทางการ

นีซ กำลังเจรจา กับ Hervé Renard เฮอร์เว เรนาร์ด ผู้จัดการทีมของ ซาอุดิอาระเบีย เข้ามาทำหน้าที่แทน ลูเซียง ฟาฟร์

อัล นาสเซอร์ กำลังสนใจในตัว เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ตลาดซื้อขายนักเตะบุนเดสลีกาเยอรมนี

ฮัมบูร์ก เปิดตัว ฟรานซิสโก้ มอนเตโร กองหลังจาก เบซิกตัส มาร่วมทีม ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล

โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ไม่ยอมรับข้อเสนอ 8 ล้านยูโรบวกโบนัสที่ 1 ล้านยูโรของ บาเยิร์น มิวนิค สำหรับการขอซื้อตัว แยนน์ ซอมเมอร์ นายทวารชาวสวิตเซอร์แลนด์ ไปร่วมทีม

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องการจะเก็บตัว จู้ด เบลลิงแฮม เอาไว้กับทีม โดยจัดแจงจะยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อนก้อนโต เพื่อล่อใจกองกลาง ชาวอังกฤษ รายนี้

"สเปอร์ส"พังคาบ้าน พ่าย"อาร์เซนอล"ในถิ่นครั้งแรกรอบ 9 ปี

“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ( สเปอร์ส )ต้านฟอร์มสุดปังของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ไม่ไหวพ่ายคาบ้าน 0-2 เป็นความปราชัยในถิ่นหนแรกรอบ 9 ทีม ทำให้ยังอยู่อันดับ 5 ในขณะที่ “อาร์เซนอล” ยึดจ่าฝูงยาว โดยหนีแมนฯซิตี้ เป็น 8 แต้ม จากเกม 18 นัด

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 นัดวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เจอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ผลงานนัดที่แล้ว สเปอร์ส โชว์ฟอร์มดุบุกไปถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-0 ทำให้ลูกทีมของ “อันโตนิโอ คอนเต้” ในขณะนี้ทีมอยู่อันดับ 5 ของตาราง ลงเตะ 18 นัดมีอยู่ 33 แต้ม ตามหลังอันดับ 4 นิวคาสเซิ่ล 2 แต้ม

ด้านทีมเยือน อาร์เซนอล ของ “มิเกล อาร์เตต้า” ครอบครองจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น จากผลงานลงสนาม 17 นัดมี 44 แต้ม ห่างจากอันดับสอง แมนซิตี้ 5 คะแนน และเตะน้อยกว่า 1 นัด

ดังนั้นถ้าเกิดทีมปืนใหญ่บุกไปเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ ก็จะฉีกหนีออกไปเป็น 8 แต้ม หลังจาก แมนฯซิตี้ บุกไปแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ครึ่งแรก GOAL นาทีที่ 14 สเปอร์ส เจ้าถิ่นที่ไม่แพ้ปืนใหญ่มายาวนานหลายปี กลับมาเสียประตูแรกไปก่อน จากจังหวะการสวนกลับเร็วของ อาร์เซนอล เมื่อแนวรุกทีมเยือนได้บอลรุกถึงเส้นหลัง ตวัดมาหน้าประตู บอลแฉลบขานักเตะเจ้าบ้าน ก่อนไปโดน อูโก้ โยริส เต็มอกกระเด้งเข้าประตูไป กลายเป็นลูกที่ทำเข้าประตูตัวเองของ อูโก้ โยริส สกอร์ขยับ สเปอร์สตามหลัง อาร์เซนอล 0-1

GOAL นาทีที่ 36 “ไก่” ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เมื่อมาเสียประตูที่สองจากความยอดเยี่ยมของ มาร์ติน โอเดการ์ด จับบอลได้กลางสนาม ก่อนฉุดกระชากเข้ากลาง แล้วซัดไกลแถวๆศีรษะนอกจุดโทษ บอลพุ่งเรียดแทรกเสาเข้าประตูไป ทำให้ สเปอร์ส ตามหลัง อาร์เซนอล 0-2 แล้วจบครึ่งแรกสกอร์นี้

ครึ่งหลัง สเปอร์ส พยายามบุกหนักหวังเอาคืน แต่เจาะไม่เข้า หมดเวลาการแข่งขัน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แพ้ อาร์เซนอล 0-2 เป็นความพ่ายแพ้ของ “ไก่เดือยทอง” สำหรับเพื่อการพบ อาร์เซนอล ในบ้านคราวแรกในรอบ 9 ปี ทำให้มี 33 แต้มเท่าเดิมอยู่ในอันดับ 5 ในขณะที่ อาร์เซนอล จ่าฝูงหนี แมนฯซิตี้ เป็น 8 แต้ม จาก 18 เกม

ผู้เล่นตัวจริง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ระบบการเล่น 3-4-2-1)

อูโก้ โยริส (ผู้รักษาประตู)

คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ไดเออร์, เกลมองต์ ลองเลต์, แมตต์ โดเฮอร์ตี้, ปาเป้ ซาร์, ไรอัน เซสเซยง, ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน

ผู้เล่นตัวจริง อาร์เซนอล (ระบบการเล่น 4-3-3)

อารอน แรมสเดล (ผู้รักษาประตู)

เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, กรานิต ชาก้า, โธมัส ปาร์เตย์, บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

แฟนบอล 'สเปอร์ส ปีนข้ามรั้วเตะใส่ แรมสเดล

แฟนบอล ‘สเปอร์ส’ ปีนข้ามรั้วเตะใส่ ‘แรมสเดล’ ในเกมบิ๊กแมตช์

เกิดเหตุวุ่นวายหลังจากจบเกม เมื่อแฟนบอลของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รายหนึ่งป่ายปีนรั้วสนามขึ้นมาเตะเข้า ที่หลังของ อารอน แรมสเดล ผู้เฝ้าประตูของ อาร์เซนอล

เกมพรีเมียร์ลีก อาทิตย์ที่ 20 อาร์เซน่อล เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปด้วยสกอร์ 2-0 โดยได้ประตูจากวิธีการทำเข้าประตูตนเองของ อูโก้ ยอริส และ มาร์ติน โอเดการ์ด ทำให้รั้งจ่าฝูงถัดไปนำอันดับสองอยู่ 8 คะแนน

แต่ทว่าหลังจบเกม มีการปะทะคารมกันเล็กน้อยระหว่าง แรมสเดล กับ ริชาร์ลิซอน และในจังหวะที่นายด่าน ทีมชาติอังกฤษเดินไปจับขวดน้ำที่หลังประตูก็ถูกแฟนบอล สเปอร์ส รายหนึ่งผ่านรั้วมาเตะใส่แผ่นหลังเข้าอย่างจัง จนหวุดหวิดมีเรื่อง

สำหรับ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และ พรีเมียร์ลีก จะมีบทกำหนดโทษ สเปอร์ส อย่างไม่ต้องสงสัยในกรณีนี้ โทษฐานปล่อย ให้แฟนบอลของตนเองทำร้ายนักฟุตบอลฝั่งตรงข้าม

ส่อโดนลงดาบ! แฟนสเปอร์สข้ามรั้วมาเตะ’แรมสเดล’

แฟนบอลไก่เดือยทองรายหนึ่งข้ามรั้วสนามมาเตะนายด่านไอ้ปืนใหญ่หลังจบเกม

เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นหลังจบเกม พรีเมียร์ลีก คู่ระหว่าง ท็อตแนใ ฮ็อทสเปอร์ เจอ อาร์เซนอล เมื่อแฟนบอลเจ้าถิ่นรายหนึ่งไต่รั้วสนามขึ้นมา เตะเข้าที่หลังของ อารอน แรมสเดล ผู้รักษาประตูของทีมเยือน

ไอ้ปืนใหญ่ โชว์ฟอร์มโหดบุกชนะ ไก่เดือยทอง 2-0 แต่หลังจบเกมมีการปะทะคารมกันบางส่วนระหว่าง แรมสเดล กับ ริชาร์ลิซอน และในจังหวะที่นายด่านทีมชาติอังกฤษเดินไปถือขวดน้ำที่หลังประตูก็ถูกแฟนบอล สเปอร์ส รายหนึ่งผ่านรั้วมาเตะใส่แผ่นหลังเข้าอย่างจังจนถึงเฉียดมีเรื่องมีราว

“คอนเต” โอด “สเปอร์ส” แพ้ “อาร์เซนอล” เพราะเหตุว่าคนผู้เดียว-ชี้มีเพียงแค่ 2 ทีมแย่งแชมป์ลีก

คอนเต

อันโตนิโอ คอนเต ที่ปรึกษาทอตแนม ฮอตสเปอร์ ออกมาเปิดใจหลังพาทีมแพ้ อาร์เซนอล คาบ้าน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด

วันที่ 16 เดือนมกราคม 66 อันโคนิโอ คอนเต ผู้จัดการทีม “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ กล่าวสรรเสริญ อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูอาร์เซนอล ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในเกมที่ไก่เดือยทอง เปิดบ้านแพ้ ปืนใหญ่ ไป 0-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมยก อาร์เซนอล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือ 2 ทีมที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

คอนเต พูดว่า “มันยากที่จะกลับมาหลังจากที่เราเสีย 2 ประตู ตอนที่เราเสียประตูแรก เรามีความเป็นไปได้ที่จะตีเสมอจาก ซอน เฮือง มิน แต่ผู้รักษาประตูของพวกเขาก็เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้นพวกเขาก็ยิงประตูที่สองได้ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อทุกคน แต่ไม่ใช่ลูกทีมของผม เพราะในครึ่งหลังเราพยายามอย่างหนักที่จะทำประตูและสร้างปัญหาให้กับอาร์เซนอล ผู้รักษาประตูของพวกเขาเซฟได้ยอดเยี่ยมหลายครั้งในเกมนี้

“ตอนนี้อาร์เซนอลเป็นคู่แข่งที่ยากจะต่อสู้ เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งสองทีมกำลังแย่งชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก เราเล่นกับทีมที่แข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่ได้ผิดหวังกับความมุ่งมั่นของลูกทีมของผม พวกเขาแสดงความมุ่งมั่นที่จะพยายามกลับมาให้ได้ บางครั้งที่ผ่านมาเราเคยทำได้ แต่วันนี้ผู้รักษาประตูของพวกเขาเก่งมากๆ อาร์เซนอลแสดงให้เห็นว่าเป็นทีมที่ดีจริงๆ พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์กับแมนฯ ซิตี้ พวกเขาเป็นแค่สองทีมที่สามารถต่อสู้เพื่อพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ได้”

 

โรนัลโดว่าไง "ทีมชาติโปรตุเกส" แถลงตั้ง "มาร์ติเนซ" คุมทีม เผยรายการต่อไปที่เตรียมแข่ง

“ทีมชาติโปรตุเกส” ประกาศแต่งตั้ง “โรแบร์โต มาร์ติเนซ” เข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทีม ต่อจาก “เฟร์นานโด ซานโตส” ที่พาทีมทำผลงานในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ได้อย่างน่าผิดหวัง

วันที่ 9 มกราคม 65 “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ประกาศแต่งตั้ง โรแบร์โต มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสเปน เข้ามารับตำแหน่ง กุนซือ คนใหม่ของทีม ต่อจาก เฟร์นานโด ซานโตส ที่พาทีมทำผลงานในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ที่ประเทศกาตาร์ ได้อย่างน่าผิดหวัง ด้วยการตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ทั้งนี้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ บอกว่า “ด้วยความสัตย์จริง ผมมีความสุขที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ผมรู้ยินดีที่จะเข้ามาเป็นโค้ชของทีมที่มีผู้เล่นพรสวรรค์มากที่สุดในโลกฟุตบอล ผมรู้ถึงสิ่งนี้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกับสมาคมฟุตบอลโปรตุเกส ผมรู้ว่านี่คือโปรเจกต์ที่เหมาะสมกับผม ผมรู้ถึงความคาดหวังและเป้าหมายที่สูงมากๆ ของทีมและผมเชื่อว่าผมจะได้ร่วมงานกับกลุ่มคนที่พร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่อไปถึงเป้าหมาย”

สำหรับ โรแบร์โต มาร์ติเนซ จะเป็นกุนซือต่างชาติคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของ “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ต่อจาก ออตโต กลอเรีย และ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี.

โรนัลโดว่าไง ทีมชาติโปรตุเกส

ทางการ ทีมชาติโปรตุเกส ตั้งโรเบร์โต มาร์ติเนซ นั่งกุนซือคนใหม่

ทีมชาติโปรตุเกสประกาศแต่งตั้ง โรเบร์โต มาร์ติเนซ มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมเป็น กุนซือ ต่างชาติรายที่ 3 ซึ่งได้คุมทัพ “ฝอยทอง”

สำหรับ โปรตุเกส แยกทางกับ แฟร์นานโด ซานโตส กุนซือจอมเก๋า หลังจบศึก บอลโลก 2022 ที่ผ่านมาหลังเจ้าตัวพาทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังด้วยการตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ที่ผ่านมาทัพ “ฝอยทอง” กลายเป็นข่าวกับเฮดโค้ชหลายราย ทั้ง โชเซ มูรินโญ และโรเบร์โต มาร์ติเนซ เป็นต้น ถึงกระนั้นคนที่เป็นตัวเต็งหมายถึงมาร์ติเนซ ที่พึ่งจะอำลาตำแหน่งกุนซือ ทีมชาติเบลเยียม หลังจบเวิลด์ คัพ 2022 เนื่องด้วยพาทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม

จนกระทั่งล่าสุด โปรตุเกส ได้แถลงแต่งตั้ง มาร์ติเนซ มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ทางการ พร้อมเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลต่างชาติคนที่ 3 ที่คุมทัพ “ฝอยทอง” ต่อจาก อ๊อตโต กลอเรีย กับ หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี 2 ผู้จัดการทีมฟุตบอลบราซิเลียน

ขณะที่เรื่องสัญญานั้น ฟาบริซิโอ โรมาโน ผู้สื่อข่าวคนมีชื่อเสียงบอกว่า มาร์ติเนซ ได้เซ็นถึงเดือน มิ.ย. 2026 ซึ่งก็นับได้ว่าเขาจะได้คุมทีมใน 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง ศึกยูโร 2024 และบอลโลก 2026

ทั้งนี้ มาร์ติเนซ วัย 49 ปีมีประสบการณ์สำหรับเพื่อการคุมทีมชาติ คือ เบลเยียม ตอนปี 2016-2022 ซึ่งผลงานดีที่สุดคือการอันดับ 3 ในศึกบอลโลก 2018

มาร์ติเนซ คุมทีม

‘ฝอยทอง’ ตั้ง ‘มาร์ติเนซ’ คุมทัพแทน ‘ซานโต๊ส’ ถึงปี 2026

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสแปนิช ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทัพ โปรตุเกส อย่างเป็นทางการ หลังพึ่งจะตกงานได้ไม่นานนับตั้งแต่หมดสัญญากับ เบลเยียม โดยมีภารกิจสำคัญทั้งในศึกยูโร 2024 และ ฟุตบอลโลก 2026

ทีมชาติ โปรตุเกส ประกาศแต่งตั้ง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาคนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว แทนที่ แฟร์นานโด ซานโต๊ส ที่ล่ำลาทีม หลังทัพ ฝอยทอง ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ จากการพ่าย โมร็อกโก ม้ามืดของทัวร์นาเม้นต์ ไปอย่างหวุดหวิด 0-1 โดยจะเซ็นสัญญาถึงปี 2026

นายใหญ่แดน กระทิงดุ เพิ่งจะหมดสัญญากับ เบลเยียม โดยพาทีมจบอันดับ 3 กลุ่ม เอฟ ชวดไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ ศึกเวิลด์คัพ ฉบับดินแดนอาหรับไปอย่างน่าผิดหวัง แต่เขาไม่มีงานทำได้ไม่นาน ก็ได้งานใหม่คุมแข้งโปรตุกีส และใจความสำคัญเร่งด่วนที่สุดของเขาคือการอธิบายเหตุการณ์ของกัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเพิ่งจะเซ็นสัญญากับสโมสร อัล นาสเซอร์ ในซาอุดิอาระเบีย

ภายใต้การนำของเขา เบลเยียม อยู่ในอันดับต้นๆของการจัดอันดับโลกจากสหพันธ์บอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เป็นเวลากว่าสามปี แต่ด้วยผลงานที่ไม่เป็นตามคาดที่กาตาร์ ต้องยุติเส้นทางก่อนกำหนด ทำให้ไม่ต่อสัญญา ซึ่งงานใหม่ของเขาจะได้คุม โปรตุเกส ลงเล่นในสองรายการสำคัญถ้าหากผ่านรอบคัดเลือก ทั้งศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนี ต่อด้วยฟุตบอลโลก 2026 ที่แคนาดา เม็กซิโก และ อเมริกา เป็นเจ้าภาพร่วม

‘มาร์ติเนซ’ ยัน ‘โรนัลโด้’ ยังเป็นคนสำคัญของทีมชาติโปรตุเกส

หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ประกาศแต่งตั้งโรเบร์โต้ มาร์ติเนซ โค้ชชาวสเปนเป็นหัวหน้าโค้ช ทีมชาติโปรตุเกส คนใหม่อย่างเป็นทางการ ทำให้มีการไต่ถามถึงอนาคตของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แผงหน้าวัย 37 ปี ที่ย้ายออกจากวงการบอลยุโรปไปค้าแข้งกับอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย ว่ายังมีอนาคตกับทีมชาติหรือไม่

มาร์ติเนซกล่าวว่า หลังจากเข้ามารับงานอย่างเป็นทางการแล้ว จะติดต่อกับนักฟุตบอล 26 คนที่ไปลุยบอลโลก 2022 มาก่อนหน้านี้ ซึ่งโรนัลโด้ก็เป็นเยี่ยมในนั้น และจะมีการพูดคุยกับโรนัลโด้อีกรอบถึงการเล่นให้ทีมชาติของเขาหลังจากนี้ เขาเป็นนักฟุตบอลที่อยู่กับทีมชาติมา 19 ปี ควรได้รับการเคารพ ก็เลยควรจะมีการพูดคุยกันก่อน ส่วนหน้าที่ของ มาร์ติเนซ หมายถึงการเลือกนักฟุตบอลที่ดีที่สุดที่จะไปลุย บอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2024”

5 สิ่งที่ทีม ทีมชาติไทย ต้องทำ หากต้องการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

เหตุผลหนึ่งที่มาเลเซีย เป็นทีมที่คู่แข่งจะต้องหวาดหวั่น นั่นก็เพราะเหตุว่ามี บูกิต จาริล เป็นรังเหย้านั่นเอง เพราะเหตุว่า บูกิต จาริล สเตเดี้ยม มีความจุ 87,411 ที่นั่ง และก็มักจะทำให้อาคันตุกะจะต้องอ่อนระโหยโรยแรงไปกับเสียงเชียร์ของแฟนคลับที่พร้อมจะกดดันคู่แข่ง ทุกวินาทีแบบประสานเสียงโดยพร้อมเพรียง จนกระทั่งเปลี่ยนเป็น ‘นรกของทีมเยือน’ร่วมส่งกำลังใจให้ฟุตบอล ทีมชาติไทย

โดยเฉพาะทีมชาติไทย ที่ยังไม่เคยมาเอาชัยที่นี่ได้นานกว่า 9 ปี โดยทีสุดท้ายที่ได้เฮในสังเวียนแข้งแห่งนี้ จำเป็นต้องย้อนกลับไปในศึก อาเซียน คัพ 2014 เลยทีเดียว

แฟนฟุตบอลอินโดนีเซีย ที่ว่าโหดๆมาที่มาเลเซีย กับ บูกิต จาริล ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเท่าไร

เสน่ห์อย่างหนึ่งของกลุ่ม ‘อุลตร้ามาลายา’ (ชื่อเรียกของแฟนบอลชาวมาเลเซีย) เป็นการที่พวกเขามีความพร้อมใจสูงมากๆไม่มีแบ่งแยกว่าจะมาจากกลุ่มไหน เพราะว่าเมื่อเข้าสนามแล้ว พวกคุณคือเดียว

มันก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้อัฒจันทร์ที่ 4 ฟากฝั่งของ บูกิต จาริล จึงกระหึ่มไปด้วยเสียงเชียร์ที่อื้ออึงตลอดทั้งเกมการแข่งขัน ทำให้ทีมชาติไทยต้องใจแข็งกันหน่อย

ที่สำคัญเป็นอุลตร้ามาลายาบางทีอาจจะเป็นกองเชียร์ที่ดุเดือดขึงขังมากมายก็จริง แต่พวกเขาเอาจริงเอาจังในเกมเพียงแค่นั้น ไม่สร้างความทุกข์ร้อนให้แฟนๆทีมเยือน หรือสมาคมฟุตบอลของมาเลเซีย เลย

แต่พอเสียงนกหวีดเป่าปรี๊ด…พวกเขาพร้อมที่จะแหกปากกู่ร้องเพื่อบีบคั้นวิธีการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน, แผดเสียงโวยวายเมื่อทีมของตนเองเสียเปรียบ, ด่าทอฝั่งตรงข้ามด้วยการเอาจริงเอาจัง และอีกสารพัดสิ่งที่เท่าที่จะทำได้ในกรอบกฎระเบียบสากล

ทีมชาติไทย

รอบแบ่งกลุ่มของ อาเซียน คัพ 2020 มาเลเซีย ทำไปได้ทั้งหมด 10 ประตู ซึ่งมีถึง 8 ลูก ที่มาจากการสร้างสรรค์เกมทางริมเส้น

ทัพเสือเหลืองแห่ง มาลายัน ชุดนี้มีฟูลแบ็กที่ดุเดือด และพลังชายหนุ่ม เนื่องจากว่าอายุ 21 เสมอกัน ไม่ว่าจะเป็น อาซาม อัซมี่ ในฝั่งขวาที่นอกเหนือจากการที่จะพละกำลังล้นเหลือ เขายังเป็นกองหลังที่มีวินัยสูง แถมยังมีลูกขยัน กัดไม่ปล่อย ซึ่งจะสร้างความรำคาญให้บรรดาแนวรุกฝั่งตรงข้ามแน่นอน

ขณะที่ฟากซ้าย รูเว็นธิราน เว็นกาเดซาน ก็โดดเด่นในเรื่องเกมรับที่ไม่ปลดปล่อยให้คู่แข่งผ่านได้ไม่ยากซึ่งทำให้

บรรดาตัวรุกข้างบนของทีมไม่ต้องพะวงมากนัก

แต่ทว่าจุดที่ ‘อันตราย’ มากที่สุดคือ ‘ปีก’ ทั้งสองข้างของมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น ซาฟาวี่ ราซิด กับ ไฟซาล ฮาลิม ที่มีดีคนละแบบ

ดังนั้น ‘เกมริมเส้น’ จึงเป็น ‘จุดแข็ง’ ของมาเลเซีย ชุดนี้ ซึ่งทาง อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เองก็คงจะรู้กันดี แต่เขาจะมีแผนการจัดการกับความอันตรายของทัพเสือเหลืองแห่งมาลาจนถึงเจริญเพียงใด อาจจำเป็นต้องติดตามกันในรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 เกม

หนีห่าง เบรนแดน กัน

เขาอาจจะไม่สะดุดตาสะดุดตา แต่เมื่อใดที่ทีมเสือเหลืองแห่งมาลากระทั่งถึงมีเขาอยู่ในสนาม เมื่อนั้นค้ำประกันได้เลยว่าบรรดาแนวรุกจะเล่นกันได้อย่างสบายใจ ส่วนแผงหลังก็งานค่อย เนื่องจากมีคนกวาดให้ก่อนแล้ว

ในความเป็นจริงแล้วมิดฟิลด์เชื้อสาย มาเลเซีย-ออสเตรเลีย ต้องมีสถิติรับใช้ชาติมากกว่านี้ แม้แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาหลุดทีมไป รวมถึงการปลีกวิเวกไปรักษา ‘มะเร็งลูกอัณฑะ’ อยู่พักใหญ่

ทว่าพอกลับมาลงสนามให้เสือเหลือแห่ง มาลายัน เขาก็ทุ่มเทและทำผลงานออกมาได้ดีมากๆเสมอ

กัน บางครั้งอาจจะไม่คล่องแคล่วนัก แต่เขาเป็นกองกลางที่เล่น ฟุตบอลด้วยสมอง เขาอ่านจังหวะของเกมได้เด็ดขาด มันจึงทำให้บอลสองของมาเลเซีย เก็บกินได้เสมอ ซึ่งก็มาจากการที่มีมิดฟิลด์วัย 34 ปี คนนี้รอจัดการนั่นเอง

เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ส่องแสงในสนาม แต่ประโยชน์นั้นมากมายสำหรับทีมของตัวเอง ซึ่งจุดนี้นี่แหละที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง คงจะต้องหาวิธีหนีลูกครึ่งออสซี่ ให้ได้ เพราะว่าใน คิงส์ คัพ 2022 ก็เห็นๆอยู่ว่าที่ไทย ได้เพียงผลเสมอนั่นก็มาจากการที่ กัน สามารถจัดแจงกับแนวรุกช้างศึกได้นั่นเอง

พอใจแต่บอลสิ่งเดียว

ครั้งสุดท้ายที่ทัพช้างศึกเอาชนะคู่แข่งรายนี้ได้จะต้องย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปี ที่แล้ว ซึ่งขณะนั้น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นที่ปรึกษา และสิ่งหนึ่งที่ ‘โค้ชซิโก้’ ย้ำกับลูกทีมเป็น ‘เล่นบอลอย่างเดียว’

ผู้ฝึกสอนชาวขอนแก่น กำชับนักเตะว่าไม่ต้องตั้งใจกับลูกตุกติกของฝั่งตรงข้าม คนใดจะเล่นหนักก็ตามปะไร เราพอใจแค่การแข่งขันก็พอ

ผลที่ออกมาเป็นการบรรลุผลทั้งในทีมชาติชุดใหญ่ และชุดยู-23 ที่ฟาดแชมป์เป็นว่าเล่น พร้อมทั้งครอบครองความเป็น เบอร์หนึ่งของอาเซียน อยู่นานพอเหมาะพอควร ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง

เพราะฉะนั้นเกมที่จะบุกไปเยือนสนาม บูกิต จาริล ในวันเสาร์ที่ 7 มกราคมนี้ คงจะควรจะมีสมาธิกับการแข่งขันให้มากมายที่สุด และก็อย่าว่อกแว่กกับแท็กติกการเตะหนักของมาเลเซีย เป็นอันขาด

โดยเฉพาะทีมชาติไทย

อย่าให้ ราซิด เล่นง่าย ทีมชาติไทย ต้องกดดันแบบสุดๆ

10 ประตู ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีชื่อของ ซาฟาวี่ ราซิด บนกระดานคะแนน แต่เขาก็มีถึง 4 แอสซิสต์ ซึ่งมากมายที่สุดใน อาเซียน คัพ 2022

แนวรุกป้ายแดงของ ราชบุรี เอฟซี เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ กับผลงานสำหรับในการสร้างสรรค์เกมที่สามารถทำได้หลายหลาก ไม่ว่าจะจ่ายบอลทะลุช่องหรือ ครอสจากริมเส้น

แม้จะอายุเพียงแค่ 25 ปี แต่ในช่วงเวลานี้เขาสะสมไมล์รับใช้ชาติไปแล้ว 50 เกม ซึ่งนั่นทำให้ประสบการณ์ของปีกรายนี้เข้มคลั่กและสามารถประคองเพื่อนร่วมทีมได้

5 เกม หลังสุดที่เผชิญหน้ากับไทย – ราซิด มีส่วนร่วมทุกนัด และก็สร้างความอลหม่านให้กับ แนวรับของช้างศึกอยู่เสมอ ก่อนจะทำไป 1 ประตู และมีอีก 1 แอสซิสต์

ที่สำคัญเป็นทั้ง 5 แมตช์ – มาเลเซีย ไม่พลาดท่าต่อไทย เลยสักครั้ง

ฉะนั้นถ้าเกิดจะหยุดเกมรุกของเสือเหลืองแห่งมาลายัน ก็ต้องทำลายจังหวะการเล่นของ ราซิด ที่เปรียบเสมือนหัวใจสำหรับการขับเคลื่อนเกมของ มาเลเซีย ให้อยู่หมัด

แมนซิตี้ ก่อนบู๊ลิเวอร์พูลลีกคัพ "เป๊ป" ยินดี 3 ลูกศิษย์เอกคว้าแชมป์บอลโลก-ชู "เมสซี" หาคนเทียบยาก

กุนซือ แมนซิตี้ กล่าวคำยินดี 3 ลูกศิษย์เอกหลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 พร้อมฝากวาทะเด็ดถึง ลิโอเนล เมสซี ก่อนดวล ลิเวอร์พูล

วันที่ 21 ธันวาคม 2565 เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์สำหรับการแถลงข่าวก่อนเกมคาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบ 4 ที่จะปะทะกับ หงส์แดง คู่แข่งร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมนี้ แข่ง 03.00 น. ตามเวลาไทย

ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้กล่าวยินดีกับ 3 นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านการร่วมงานกันมา ทั้ง ลิโอเนล เมสซี ที่เคยอยู่ด้วยกันในทีมบาร์เซโลนา, นิโคลัส โอตาเมนดี ที่อยู่ด้วยกันกับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2016-2020 ก่อนย้ายไป เบนฟิกา และ ฮูเลียน อัลวาเรซ แผงหน้าดาวรุ่ง “เรือใบสีฟ้า” ในชุดตอนนี้

เป๊ป เอ๋ยถึงทั้ง 3 คนที่ไปถึงเป้าหมายในรายการใหญ่ที่สุดของวงการลูกหนังว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อสำหรับพวกเขา ทั้ง โอตาเมนดี และโดยเฉพาะ เมสซี รวมถึงดีใจแทน ฮูเลียน ที่ทำให้เรามีแชมป์บอลโลกอยู่ในทีม”

อดีตกุนซือบาร์เซโลนา ยังกล่าวถึง เมสซี อีกว่า “ไม่มีใครสงสัยเลยว่าเขาอยู่ในฐานะหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล มันคงยากที่จะมีผู้เล่นคนไหนสามารถทำได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาทำ แต่ต่อให้เขาไม่ได้แชมป์โลก ความคิดของผมที่มีต่อเขาก็ยังไม่เปลี่ยนไปอยู่ดี แต่ที่สุดแล้ว มันคือการเดินทางครั้งสุดท้ายบนเส้นทางอาชีพที่น่าทึ่งสำหรับเขา”

แมนซิตี้

“แมนซิตี้” ขาด 10 แข้ง รับมือ “ลิเวอร์พูล” ศึกคาราบาว คัพ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ชของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับรองว่าจับตัวได้นักเตะที่ไปรับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก กลับมาสมทบกับทีมเพิ่มอีก 6 คน แต่ยังขาดอีก 10 คนที่พักต่อ

เป๊ป กวาร์ติโอล่า กำลังเตรียมความพร้อมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับเกมที่จะเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ หงส์แดง ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 4 คืนวันนี้ โดยการันตีว่า 6 นักเตะที่ไปออกศึกเวิลด์คัพ ที่กาตาร์ ได้กลับมาสมทบ และลงฝึกฝนร่วมกับทีมแล้ว หลังจากที่ “เรือใบสีฟ้า” มีนักเตะที่เดินทางไปรับใช้ทีมชาติสูงถึง 16 คน โดย เป๊ป รับรองว่า นักฟุตบอลกำลังทยอยเดินทางกลับมา

แต่ทั้ง 6 คนบางทีอาจจะยังไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมวันนี้ กับสารภาพว่านักเตะที่ได้เล่นในฟุตบอลโลก อยู่ในสภาพที่ดีมากกว่าคนที่อยู่กับทีม

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ยังขาดนักฟุตบอลอีกถึง 10 ราย ที่ยังไม่ได้กลับมารายงานตัวฝึกหัดกับทีม ไม่ว่าจะเป็นแข้งทีมชาติอังกฤษอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์, คัลวิน ฟิลลิปส์, ฟิล โฟเด้น, จอห์น สโตนส์ และ แจ็ค กรีลิช รวมไปถึง เอแดร์ซอน, รูเบน ดิอาซ, ชูเอา กานเซโล่, แบร์นาโด้ ซิลวา และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ

โดยในราย ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่เพิ่งครองแชมป์โลกกับ อาร์เจนติน่า ได้สำเร็จนั้น เป๊ป ก็ได้ร่วมยินดีกับลูกทีมรายนี้ โดยกล่าวว่า “เราแฮปปี้กับเขามาก เขาได้ลงสนามเยอะ และเขาก็จะช่วยเหลือทีมได้เยอะมาก เรามีแชมป์โลกอยู่ในทีม” ซึ่งกุนซือ แมนฯ ซิตี้ ยืนยันว่า ได้อนุญาตให้ อัลวาเรซ พักผ่อนหลังจากกรำศึกหนักเป็นเวลา 10 วัน และจะกลับมาสมทบกับทีมในช่วงก่อนปีใหม่

นอกเหนือจากนั้น กวาร์ดิโอล่า ยังได้ยกย่องให้ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดไป และความคิดของเขาก็จะไม่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่า อาร์เจนติน่า จะพลาดแชมป์โลกที่ กาตาร์ ก็ตาม

ศึกคาราบาว คัพ

แมนฯ ซิตี้ พบ หงส์แดง พรีวิวก่อนเกม คาราบาว คัพ

แมนฯ ซิตี้ พึ่งลงอุ่นเครื่องกับ กิโรนา ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก่อนจะเอาชนะไปได้ 2-0 ส่วนในรายการนี้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา สามารถผ่าน เชลซี มาได้สบายๆ2-0 เหมือนกัน ก่อนจะโคจรมาเจอกับคู่ต่อสู้แห่งยุคอย่าง หงส์แดง ที่ผลงานในปีนี้ยังไม่เข้าที่เขาทางสักเท่าใดนัก

ฝั่ง ลิเวอร์พูล กลับมาลงแข่งขันตามโปรแกรมอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากจบฟุตบอลโลกเพียงไม่กี่วัน แถมยังเป็นเกมหนักด้วยการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกม คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในรอบที่ผ่านมาพวกเขาผ่าน ดาร์บี้ เคาน์ตี้ มาได้อย่างเฉียดฉิวจากการดวลจุดลูกโทษตัดสินเมื่อต้นเดือนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ฟรอมก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทีมของ เป๊ป กวาดิโอลา ไม่มีรายงานนักฟุตบอลบาดเจ็บก่อนเกม แต่คงจะยังไม่มีชื่อของ จูเลียน อัลวาเรซ ที่เพิ่งจะลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก กับทีมชาติอาร์เจนตินา ส่วนตัวหลักรายอื่นๆต่างฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกในเกมนี้ทั้งปวง

คาดการความเป็นไปและผลการแข่งขัน

กลับมาลงฟาดแข้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับทั้งสองทีม ซึ่งเกมนี้คาดว่าทั้ง หงส์แดง และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะขนตัวหลักลงสนามเพื่อเป็นการเคาะสนิมก่อนเกมลีกจะเริ่มในคืนวันจันทร์ที่จะถึง ฉะนั้นทำให้เกมนี้บางทีอาจดูสนุกสนานใกล้เคียงต่างฝ่ายต่างเปลี่ยนกันครอบครองเกมบุกเข้าใส่กัน

แต่เชื่อว่าการที่ เรือใบสีฟ้า ได้เล่นในบ้าน บางครั้งก็อาจจะสร้างความได้เปรียบอยู่บ้างบางส่วน อย่างไรก็แล้วแต่ผลงานที่ทั้งสองเจอกันก่อนหน้าที่ผ่านมา ซิตี้ ไม่ชนะ หงส์แดง มาแล้ว 5 เกมติดต่อกัน

แถม 3 นัดหลังเป็นลูกทีมของ คล็อปป์ ที่คว้าชัยไปได้ทั้งปวง ทำให้ผลการแข่งขันยังยากจะคาดเดา แต่มั่นใจว่ามีโอกาสสูงที่จำเป็นจะต้องดึงเกมยาวไปจนถึงการดวลจุดลูกโทษในที่สุด

ฟุตบอลโลก 2022 FIFA WORLD CUP ข้อสรุปรางวัล สถิติ เก็บทุกโมเมนต์สำคัญๆ

ศึกฟุตบอลโลก 2022 FIFA WORLD CUP ที่ประเทศกาตาร์ ได้บทสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทัพฟ้าขาว อาร์เจนตินา ผงาดครองแชมป์โลกเป็นยุคที่ 3 ได้เป็นอย่างมากใหญ่ หลังเป็นฝ่ายดวลจุดลูกโทษเอาชนะแชมป์เก่า ฝรั่งเศส 4-2 โดยที่ 120 นาทีเสมอกันไปอย่างสุดมัน 3-3

ศึกฟุตบอลโลก 2022 FIFA WORLD CUP ที่ประเทศกาตาร์ ได้ผลสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทัพฟ้าขาว อาร์เจนตินา ผงาดครองแชมป์โลกเป็นยุคที่ 3 ได้เป็นอย่างมากใหญ่ หลังเป็นฝ่ายดวลจุดโทษเอาชนะแชมป์เก่า ฝรั่งเศส 4-2 โดยที่ 120 นาทีเสมอกันไปอย่างสุดสนุก 3-3 ซึ่งกูรูและแฟนบอลเสียงส่วนใหญ่ต่างยกให้แมตช์นี้เป็นแมตช์นัดชิงแชมป์ที่มีอัตราความเมามันครบรสชาติมากมายที่สุดในประวัติศาสตร์เวิลด์คัพกันเลยทีเดียว

ฟุตบอลโลก 2022

สถิติ รางวัลต่างๆในศึกฟุตบอลโลก 2022 FIFA WORLD CUP

– ศึก ฟุตบอลโลก 2022 มีการเก็บสถิติซึ่งคราวนี้มีการทำคะแนนกันทั้งปวง 172 ประตูจาก 64 แมตช์ ซึ่งมากที่สุดเป็นสถิติใหม่ของศึกเวิลด์คัพ คิดเป็น 2.69 ประตูต่อเกม ทำลายสถิติจากเมื่อฟุตบอลโลก 1998 และ 2014 ที่มีการกระหน่ำตาข่ายรวม 171 ประตูเท่ากัน

– อาร์เจนตินา ครอบครองแชมป์โลกยุคที่ 3 ในรอบ 36 ปี หลังครั้งสุดท้ายที่เคยทำได้ในปี 1986 นับเป็นการรอคอยแชมป์ที่นานที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก อิตาลี ที่คอยโทรฟี่เวิลด์คัพยาวนานที่สุดถึง 44 ปีตั้งแต่ปี 1938 ถึง 1982

– อาร์เจนตินา เป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่แพ้เกมแรกแล้วสามารถทะลุเข้าไปครอบครองแชมป์โลกได้สำเร็จ ต่อจาก สเปน ที่เคยทำได้เมื่อปี 2010 ซึ่งทัพฟ้าขาวเปิดหัวด้วยการแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างช็อกโลก 1-2 ก่อนที่จะเริ่มทำฟอร์มจนฝ่าด่านเข้ามาเป็นแชมป์โลกได้ในที่สุด

ลีโอเนล เมสซี่

  • เอารางวัลโกลเด้น บอล หรือ นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ และเป็นนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่ได้รางวัลนี้ 2 ครั้ง หลังเคยได้รางวัลนี้ในฟุตบอลโลก 2014
  • เมสซี่ ยังเป็นแข้งคนแรกที่ทำประตูได้ในทุกรอบของฟุตบอลโลก นับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มกระทั่งมาถึงรอบชิงชนะเลิศ และสามารถคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ (ผู้เล่นยอดเยี่ยมในแมตช์นั้นๆ) ได้ถึง 5 เกมจากฟุตบอลโลกครั้งเดียว
  • เมสซี่ เปลี่ยนเป็นนักเตะที่ลงสนามในฟุตบอลโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 26 นัดแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง โลธาร์ มัทเธอุส ของเยอรมนีที่เล่นไป 25 นัด

รางวัลฟุตบอลโลก 2022

  • แชมป์ : อาร์เจนตินา
  • รองแชมป์ : ฝรั่งเศส
  • อันดับ 3 : โครเอเชีย
  • อันดับ 4 : โมร็อกโก
  • รางวัลโกลเด้น บอล หรือ นักเตะยอดเยี่ยม : ลีโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนตินา)
  • รางวัล โกลเด้น บู้ท หรือ ดาวซัลโว : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส) 8 ประตู
  • รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม : เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (อาร์เจนตินา)
  • รางวัลโกลเด้น โกลฟ หรือ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนตินา)
  • แฟร์เพลย์ : ทีมชาติอังกฤษ (โดนใบเหลืองแค่ใบเดียวตลอดทัวร์นาเมนต์)

รวบรวมทุกโมเมนต์สำคัญๆ

โมเมนต์สำคัญๆFIFA WORLD CUP

  • เจ้าภาพ กาตาร์ แปลงเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่ตกรอบเร็วที่สุดหลังผ่านไปเพียงแค่ 2 เกมแค่นั้น โดยเริ่มจากแพ้ เอกวาดอร์ ในนัดเปิดสนาม 0-2 จากนั้นก็ปราชัยต่อ เซเนกัล 1-3 จะต้องตกรอบแบ่งกลุ่มไปอย่างหมดลุ้นตั้งแต่ไก่โห่ แถมนัดสุดท้ายก็ยังแพ้ต่อ เนเธอร์แลนด์ อีก 0-2 ทำให้ กาตาร์ จบฟุตบอลโลกที่ตนเองเป็นเจ้าภาพโดยที่ไม่มีแต้มหากแม้แต่คะแนนเดียว
  • ประเทศญี่ปุ่น อีกหนึ่งผู้แทนจากทวีปเอเชีย ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเกินคาด หลังโดนจับสลากมาร่วมกลุ่มทีมเต็งทั้ง เยอรมนี และ สเปน แต่ทัพซามูไรบลูส์กลับสร้างเซอร์ไพรส์คว้าชัยชนะกลุ่มนี้ไปครอบครองอย่างสง่าผ่าเผย ด้วยการเอาชนะทั้ง เยอรมนี และ สเปน ได้ พร้อมกับส่งอดีตแชมป์โลก 4 ยุคอย่าง เยอรมนี กลับบ้านตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาไปแพ้ลูกเก๋าของ โครเอเชีย ซึ่งแม้ ประเทศญี่ปุ่น จะขึ้นนำก่อน แต่ทีมตราหมากรุกก็ไมาได้ประตูตีเสมอก่อนลากพาไปดวลจุดลูกโทษ และส่ง ญี่ปุ่น กลับบ้านในรอบนี้
  • เกาหลีใต้ ที่ฟื้นขึ้นมาจากหลุม ที่ก่อนแข่งขันนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ทัพโสมขาวแทบตกรอบไปแล้วเกินครึ่งตัว เพราะว่านอกเหนือจากจะต้องเอาชนะทีมเข้มแข็งอย่าง โปรตุเกส แล้วจะต้องลุ้นให้ผลอีกคู่ระหว่าง อุรุกวัย vs กานา เป็นใจด้วย แต่สุดท้ายแล้วเสมือนเขียนบทให้ เกาหลีใต้ หลังได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีสุดท้าย เชือด โปรตุเกส 2-1 และผลอีกคู่ อุรุกวัย ชนะ กานา ได้ ทำให้ เกาหลีใต้ แซงเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มจำพวกวินาทีสุดท้ายจริงๆสุดท้ายในรอบ 16 ทีม พวกเขาจะแพ้ทีมเต็ง 1 อย่าง บราซิล จอดป้ายไว้เพียงแค่รอบนี้
  • บราซิล ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ทัพแซมบ้า ในฐานะเต็ง 1 ฟุตบอลโลกคราวนี้ที่อุดมไปด้วยซุปเปอร์สตาร์เต็มทีม แต่ต้องมีอันกระเด็นตกรอบเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งในรอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิล ดวลกับ โครเอเชีย หากว่า 90 นาทียังเสมอกัน 0-0 แต่ช่วงทดเวลา บราซิล นั้นเหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุม และมาได้ประตูนำ 1-0 จากเนย์มาร์ ซึ่งเกมราวกับจะจบลงที่ตรงนี้ แต่ด้วยความชะล่าใจ โครเอเชีย ตีเสมอได้ก่อนหมดเวลา 1-1 ก่อนลาก บราซิล ไปดวลเป้า สุดท้ายเป็น โครเอเชีย ที่เขี่ยเต็ง 1 ตกรอบ ทำเอาคน บราซิล ทั่วทั้งประเทศน้ำตาตก
  • ฟุตบอลโลก ครั้งสุดท้ายที่ไม่น่าจดจำของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โปรตุเกส เข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ซีอาร์เซเว่น เริ่มตกเป็นผู้เล่นสำรองในรอบน็อกเอาท์ แถมคนที่ลงมาแทนอย่าง กอนซาโล่ รามอส กลับตะบันแฮตทริกได้ และพาทีมกระหน่ำ สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 จนถึงรอบควอเตอร์ไฟน่อลที่ทัพฝอยทองโคจรมาเจอกับ โมร็อกโก เกมนี้ โรนัลโด้ ลงมาในฐานะตัวสำรอง แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้ โปรตุเกส จอดป้ายเเค่รอบนี้ และคาดว่าอาจเป็นเวิลด์คัพครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวแล้วด้วย
  • โมร็อกโก ม้ามืดประวัติศาสตร์ ที่คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลกคราวนี้ และกลายเป็นทีมจากทวีปแอฟริกาทีมแรกที่สร้างประวัติศาสต์ทะลุไปสู่รอบรองชนะเลิศเวิลด์คัพ แม้นัดชิงที่ 3 จะแพ้ต่อ โครเอเชีย แต่ผลงานอันดับที่ 4 ของทีมสิงโตแอตลาสนั้น ก็จำเป็นต้องกล่าวว่ามาไกลจากที่ตั้งเป้าไว้มากๆแล้ว