“แมท ภีรนีย์” เปิดหมดไส้ ไม่ตกเป็นเหยื่อคำพูด! สนิท “ไฮโซพก” กินข้าวกับสาวคนก่อนได้ทุกคน!

“แมท ภีรนีย์” เปิดใจกลางรายการแฉถึงดรามา “ไฮโซพก-อั้ม พัชราภา” ยันกล้าพูดว่าสนิทกับพก ถึงกับขนาดอีกฝ่ายเรียก “อีแมท” ที่ผ่านมากินข้าวกับสาวคนก่อนๆ ของฝ่ายชายตลอด รับพบเรื่องหนักๆ ร้องไห้ตลอดแต่ไม่ให้ใครเห็น เคลียร์ไม่เลิก “สงกรานต์” ประทับใจฝ่ายชายและครอบครัวไม่เคยปล่อยมือ จากนี้จะมีสติมากยิ่งขึ้น จะหนักแน่นไม่ตกเป็นเหยื่อคำพูดใคร บอกฟ้องชาวเน็ต 10 เคส หมดเงินเป็นล้าน

ถึงกับขนาดต้องทำหนังสือเพื่อขออนุญาตช่อง 3 ให้ “แมท ภีรนีย์ คงไทย” มาออกรายการแฉทางช่อง GMM เลยทีเดียว หลังจากที่ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” พิธีกรชื่อดัง เคยบอกในรายการว่าจะนำตัวแมทมาออกรายการให้ได้ เหตุนางเอกสาวเจอดรามาหนัก ถูกลือเป็นมือที่สาม ทำรัก “ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา” กับ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ล่ม งานนี้แมท ก็ได้เปิดเผยว่า

“ถามว่ากี่ปีแล้วที่พบอะไรหนักๆ ก็เกือบ 5 ปีแล้วมั้งคะ ตั้งแต่ท้ายปี 2018 จำได้แม่น (หัวเราะ) ปัจจุบันนี้แมทบนราหูไว้ค่ะ จากที่ไม่ค่อยทำบุญกับวัด แต่ว่าชอบทำบุญกับสัตว์ เด็ก ไม่ค่อยไปมู กับเทพ กับวัด ช่วงนี้บนไป 9 ครั้ง

ปี 18 โดนกระแสแอนตี้ ลงภาพปุ๊บก็โดนด่า ตอนแรกรู้สึกว่าเหมือนไปฆ่าใครตาย แต่ว่าเวลานี้ก็ยังโอเค ก็ไม่รู้เลยว่าผ่านมาได้อย่างไร จะว่าอวยตนเองนิดนึงก็ได้ ไม่รู้อดทนเก่งอะไรขนาดนี้ บางทีคิดว่าอยากอ่อนแอบ้างก็ได้ ร้องไห้ตลอด แต่ไม่ทำให้ใครเห็น”

ภีรนีย์ คงไทย

อยากขอบคุณจากหัวใจ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” และครอบครัวแท็กทีมช่วยแก้ข่าว ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ไม่เคยปล่อยมือ

“วันนั้นครอบครัวพี่สงกรานต์แท็กทีมออกมาช่วยแก้ข่าว ก็กราบขอบพระคุณจริงๆ พี่สงกรานต์และครอบครัวพี่สงกรานต์ไม่เคยทอดทิ้งเลยค่ะ ไม่ว่ามีอะไรก็จับมือแมทตลอด เป็นสิ่งที่แมทซาบซึ้งในหัวใจมาโดยตลอด ก็อยากขอบคุณจากหัวใจ ซึ่งแมทก็ขอบคุณเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก็ยังอยากขอบคุณไปตลอดเรื่อยๆ ถามว่าชีวิตก่อนเจอเขา ชีวิตเราราบเรียบมาตลอดไหม ไม่จริงค่ะ พี่สงกรานต์เขาเป็นต้นแบบที่ดีให้แมทในหลายๆ เรื่อง

ถ้าหากย้อนกลับไป ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปเพราะว่าคบพี่สงกรานต์ไหม ในมุมของแมท แมทมีความรู้สึกว่าแมทเปลี่ยนไปในมุมที่ดีขึ้นค่ะ โตขึ้นด้านความคิด เนื่องจากพี่สงกรานต์เขาโตกว่าแมทเยอะมาก เขาเจออะไรที่หนักกว่าแมทมาเยอะ ที่แมทประทับใจตลอดคือพี่เขาไม่เคยปล่อยมือเลยค่ะ เมื่อใดก็ตามมีอะไรที่ทำให้เราท้อ เสียใจ ร้องไห้ หรือดาวน์ เขาจะเป็นคนจับมือ แล้วก็บอกว่าเอ็งจะต้องขึ้นมาดิวะ แบบนั้นเสมอ”

ยันชัดๆ เราไม่ได้เลิกกัน
“ถามว่าเลิกกันไหม ไม่ได้เลิกค่ะ ยังคงเหมือนเดิมค่ะ พี่เขายังให้กำลังใจ แมทก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง คิดว่าไม่ได้แล้ว ต่อไปนี้เราทำอะไรจะต้องโตกว่านี้ คิดให้มากเพิ่มขึ้นกว่านี้ ต้องมีสติให้มากกว่านี้ ทุกคนให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือก็จริง แต่เราจะปล่อยให้บุคคลอื่นมาคอยช่วยเราต่อไปไม่ได้แล้ว เราจะต้องมีสติด้วยตัวเราเองให้ได้แล้ว”

กล้าพูดว่าสนิทกับไฮโซพก รู้จักก่อนสงกรานต์ และก็ไปรับประทานอาหารกับสาวคนก่อนๆ ของไฮโซพกด้วยเสมอ
“พี่สงกรานต์เขาไม่หยุมหยิมกับเรื่องพวกนี้ เขาขยันทำงาน มีเป้าหมายชีวิต มีวิชั่นของเขาตรงจุดๆ นั้น พวกนี้ไม่สามารถที่จะดึงความสนใจเขาได้อยู่แล้ว อย่างที่บอก พี่เขาทราบอยู่แล้วว่าเรารู้จักพี่พกก่อนรู้จักพี่สงกรานต์อีก เราแฮงค์เอาต์ พี่เอมมี่ (มรกต แสงทวี) รู้ดีที่สุด พี่เขารู้ทุกๆ อย่าง เคยเจอ เคยแฮงค์เอาต์ กับคนก่อนๆ ของพี่พก ดิฉันก็ไปทานข้าวด้วยเสมอ อันนี้กล้าพูด เพราะเหตุว่าแมทกับพี่พกสนิทกัน แฮงค์เอาต์กันมาตลอด อยู่กลุ่มเดียวกันค่ะ”

Matt Peranee

แมท ภีรนีย์ รับข่าวกระทบเยอะ ห่วงความรู้สึกผู้หญิงด้วยกัน แต่ว่ายันสนิทฝ่ายชายถึงขั้นเรียกอีแมท

“ข่าวพี่พกก็สร้างผลกระทบกับแมทเยอะ แต่ที่แมทซีเรียส อันดับที่หนึ่ง ข้อแรกที่แมทกังวลที่สุด แมทเข้าใจมุมมองของผู้หญิงค่ะ แมทเป็นห่วงความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน สองเราทำให้คนรอบตัวเราเดือดร้อนอีกแล้ว แมทจำต้องขอโทษจริงๆ ว่าเราไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็ยอมรับว่าเราคิดน้อยเกินไปจริงๆ ค่ะ จริงๆ กับพี่พกมากกว่าเพื่อน ด้วยเหตุว่าเราคือพี่น้อง จริงๆ พี่พกเรียกแมท อีแมท (หัวเราะ) นึกออกไหมคะ (หัวเราะ)”

จำต้องหนักแน่นกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหยื่อคำพูดหรือข่าว
“(มดดำถามว่าได้โทรเคลียร์กับดาราสาวอีกคน ทางไดเร็กแมสเสจ) เนี่ย ไม่ค่อยชอบ แมทไม่อยากพูดแล้วกับเรื่องนี้ แมทมีความรู้สึกว่าแมทจำเป็นต้องหนักแน่นกว่านี้ ถ้าเกิดไม่หนักแน่นพอ แมทจะกลายเป็นเหยื่อของคำพูดหรือข่าวของคนอื่นๆ แมทต้องหนักแน่น แมทได้พูดอธิบายซึ่งค่อนข้างจะเคลียร์นะคะ แมทไม่มีอะไรแก้ตัวหรืออธิบายไปมากกว่านี้แล้ว ซึ่งข่าวนี้เสียใจ รวมทั้งนอยด์ พี่สงกรานต์ก็ตักเตือนว่าทำอะไรต้องคิดแล้ว ต้องมีสติมากกว่านี้ ซึ่งก็เห็นจริงๆ ก็ได้ขอโทษค่ะ”

พ้อกระพริบตา หรือหายใจก็ผิดแล้ว
“แค่กระพริบตา แค่หายใจก็ผิดแล้ว ก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก่อนหน้านี้ตลอดมา ไม่ได้เคยคิดที่อยากจะทำให้เป็นข่าว หรือทำให้ใครเดือดร้อน แต่แค่ขยับนิดเดียวก็เป็นอะไรไม่รู้ เกินคาดเรามากเลย แต่ว่ามีประเด็นหรือคำพูดอะไรที่เออ ก็คิดได้เนอะ เป็นถึงกับขนาดที่เป็นข่าว บางครั้งเราไม่ได้นึกถึงเลย”

เสียเงินค่าฟ้อง 10 เคสใช้เงินเป็นล้าน
“เจอคอมเมนต์รุนแรง ธงอันแรกที่เริ่มฟ้อง เริ่มกระบวนการธงที่เขาถามเราเลยว่าอยากฟ้องคือเรื่องอะไร ในช่วงเวลานั้นแมทไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายมาก ก็คิดว่าถ้าหากเราไปอยู่หน้าบัลลังก์แล้ว ถ้าเกิดคนต่อว่าเราเขามีหลักฐานหรือมีอะไรที่จะพิสูจน์ว่าเราทำจริงหรือผิดจริง เราพร้อมเอาข้อมูลหรือหลักฐานของเราไปแก้ให้เห็นต่อหน้าศาลเช่นกัน แต่ว่าจริงๆ แล้วมันไม่สามารถที่จะทำได้ขนาดนั้น ก็เลยกลายเป็นหมิ่นประมาทมากกว่า ซึ่งในศาลพอทุกคนไป ก็ไม่ได้รู้อะไรจริงเลย เพียงแค่ให้เหตุผลว่าหนูอินค่ะ สามีหนูทิ้งหนู หนูก็เลยอินไปกับข่าว เขาเอาตัวเอง ซึ่งแมทเข้าใจจริงๆ พอเราทำอาชีพพวกนี้ เราอยู่ในจอทีวี คนมองว่าเป็นบทละคร เป็นชีวิตที่บางครั้งเราชอบคนนี้จังเลย เราเกลียดคนนี้จังเลย เขาเลยเอาตนเองมาอินกับข่าว จนเขาลืมไปว่าความอินของเขา ทำให้ผู้หญิงคนนึงบอบช้ำขนาดไหน

แมทขึ้นศาลแล้วสงสาร ธงที่บอกไม่ได้เพื่อเอาเงินอยู่แล้วค่ะ จ่ายค่าทนาย ค่าทุกอย่าง 10 เคสนี้ก็เกือบล้านค่ะ โดยที่แมทไม่ได้เอาเงินเก็บส่วนตัว คือเงินที่ทำงานมาตลอดชีวิตอยู่กับคุณแม่ ไม่ได้เอาส่วนนั้นมาทำ เป็นเงินที่แมททำแบรนด์สบู่แล้วจ่ายเองทั้งหมดเอามาเพื่อดำเนินคดี แล้วคนที่เขาพอมีเงินจ่าย เขาก็จ่ายเรา ซึ่งเราไม่ได้เอาเขาเต็มจำนวน ด้วยเหตุว่าก็สงสารแหละค่ะ ทุกเคสก็บอกประมาณนี้ว่าอิน”

“มดดำ” ฟาดแรง “โม อมีนา” สาระแนเฉลย “อ๋อม อรรคพันธ์” ป่วยมะเร็ง ไม่ใช่เมีย ไม่ต้องพูด!

ภายหลังจากที่ “โม อมีนา พินิจ” ได้ออกมาเล่าลักษณะการป่วยของ “อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์” ที่มีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ ลุกลามไปที่ปอด 2 จุด เข้ารับการผ่าตัด ในวันนี้ ทำแฟนคลับส่งกำลังใจ ให้เจ้าตัวเยอะๆ

ปัจจุบัน มดดำ คชาภา ตันเจริญ ได้เผยผ่านรายการข่าวใส่ไข่ ว่ากล่าวการให้สัมภาษณ์ ของโม อมีนา ซัดแรง ว่าไม่ใช่เมีย จะออกมากล่าวเพราะเหตุใด เรื่องอย่างนี้ ควรจะให้คนที่อาศัยอยู่ในครอบครัว อ๋อม เป็นคนพูด อีกทั้งเชื่อว่า อ๋อม ก็ไม่ต้องการให้บอกใคร

วันนั้นรู้อักษรย่อ พยายามบอกว่าพระเอกอาการหนักแล้ว จะว่าหิวแสงก็ได้ เนื่องจากว่า คุยกับเขาตลอด ฉันรักเขา ฉันเป็นห่วง เป็นพี่น้องกันมา แม้จะอ่านข่าวสาร อีโม อีบ้า คนอย่างเรา จำเป็นต้องโทร. ไปบอกว่า แก เดี๋ยวจะอ่านข่าวสารนะ ไปเปิดดูนะ เขาก็กล่าวว่าอย่าไปบอกเลย

ฉันอยากให้เขาพักผ่อนให้เยอะที่สุด อย่างที่ทราบ เขาเป็นมะเร็ง ตัวย่อออกตลอด ฉันก็รู้ตลอด เพื่อน ๆ ศิลปินทราบหมด แต่ต้องการประคองจิตใจของเขา ถ้าเกิดรู้ดีว่า สหายแก จำเป็นต้องทำคีโม 20 ครั้ง มันไม่สมควรมีอะไรกระทบกระเทือนมันเลย ตัวมันเองก็ออกจะต้องการพักผ่อน ฉันก็ได้แต่บอกว่าแกเป็นยังไงบ้าง ไม่อยากให้ใครรู้

ปรากฏว่า โม อมีนา ขอความเห็นใคร หรือยัง เดี๋ยวตบปากให้นะ พูดแล้วก็ทุกข์ยากลำบากใจ วันนี้โมออกมาบอกว่า อ๋อม ตรวจพบมะเร็ง ตั้งแต่ ตุลาคม ปี 65 มีชิ้นเนื้อ 12 เซนฯ อยู่ข้างบนบริเวณหัวใจ แล้วลุกลามมาปอด ทำคีโมมาแล้ว 5 – 6 ครั้ง เวลานี้ ชิ้นเนื้อเล็กลง ตอนแรกแนวทางการรักษา จำต้องผ่าออก แต่จำต้องลุ้นว่า การให้คีโมตอบสนองหรือไม่

มันจะต้องเล็กลงเพื่อผ่าตัดได้ ปรากฏว่า อ๋อม กำลังใจพี่ ๆ น้อง ๆ ในแวดวงดีมาตลอด ฉันก็ไม่ต้องการที่จะอยากกล่าวทำนองว่า อ๋อม เป็นนะ ไม่อยากที่จะให้อะไรกระทบจิตใจ ตัวเขาเองก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ อยากให้จำสภาพแข็งแรง อย่าลืมมัน เป็นพระเอกมาเป็น 10 ๆ ปีนะ

โม อมีนา

วันนี้ โม เสืxก ขอโทษ จุ้นจ้าน เฉลยว่าเป็น อ๋อม อรรคพันธ์

ควรรักษาสิทธิส่วนบุคคล ให้เขากล่าวเอง ไม่รู้จักสภาพจิตใจเขาเป็นยังไง เขาบางทีอาจไม่ได้อยากต้องการเป็นข่าวก็ได้ พวกเราอ่านใจเขาไม่ออกหรอก เอาง่าย ๆ เป็นสิทธิส่วนบุคคล หรือเปล่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวจะต้องเป็นผู้จัดการเขา หรือบิดามารดาเขา หรือคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวเขา ที่ออกมาพูด

อีโม ไม่ใช่ภรรยาเขา ไม่ต้องออกมากล่าว แต่เมื่อออกมาบอกแล้ว ตอนบ่าย ทุกคนก็ส่งกำลังใจไปให้ อ๋อม แต่ อ๋อม กำลังใจดี แล้วน้องก็พักรักษาตัว บิดามารดาเขาก็ดูแลลูกเขา

มันไม่ใช่ข่าว ศิลปินเลิกกัน ศิลปินมีเมียน้อย มันเกี่ยวกับความป่วยความเจ็บของคน เขาอาจรู้สึกว่า อีกสักแป๊บนึง คอยให้มีสัญญาณที่ดี น้องแข็งแรง แล้วออกมาดีมากกว่าไหม ทุกคนก็แค่อยากรอ นี่คือความมุ่งมาดของเพื่อน ๆ และ คนรู้จักมักคุ้นทุกคน ฉันมิได้สนิทมากมาย แต่ก็ ให้กำลังใจมาตลอด

แต่วันนี้ โม ออกมาเปิดเผยอาการ อ๋อม ถ้าใครติดตามละครช่อง 7 เขาอยู่จอช่อง 7 มาเป็นสิบปี เรากล้าบอกเลย ว่าไม่มีช่วงไหน เขาหายไปจากหน้าจอ อาชีพหลักเขา คือ ดารา ร้อยเปอร์เซ็นต์ เคยเล่าว่า วันนึง อ๋อมถ่ายละครแล้วเมื่อยล้า วูบ ตรวจปุบปับก็พบ ในช่วงเวลานั้น ข่าวสารคำย่อ ผู้สื่อข่าวก็พยายาม พูดถึง กระทั่ง อ๋อม ออกมาบอกว่า เขาป่วยไข้ในไอจี รวมทั้ง รักษามาตั้งแต่ เดือนตุลาคม 65 – เดือนมกราคม 66 เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ๆ เข้า ออก รพ.

อ๋อม

สิ่งที่วันนี้ โม อมีนา ออกมากล่าว อ๋อม เป็นมะเร็ง มีขนาดชิ้นเนื้อ 12 เซนฯ ทำคีโม 5 – 6 ครั้ง เมื่อชิ้นเนื้อเล็กลง ก็ผ่าเนื้อร้ายออก

ถามว่า รู้ไหม ก็ทราบ ฉันเชื่อว่า อ๋อม ไม่อยากให้ใครไปเยี่ยม จากนี้จำต้องดูว่า อ๋อม ต้อง ทำคีโม อีกกี่ครั้ง

ฉันคุยกับเขา โดยการพิมพ์ไลน์ เวลาผู้ป่วย เราก็ได้แต่ให้กำลังใจ ไม่สมควรไปวุ่นวายกับเขาเยอะแยะ เพียงแค่อยู่ตรงนี้เพียงพอแล้ว มีอะไรก็ทักมา แค่นี้ ก็โอเคแล้ว เช่นกัน ฉันป่วย อาจไม่อยากให้ใครมองเห็นตอนพวกเราอ่อนแอ

คนก็รู้กันอยู่แล้ว แต่บางที คอยให้บิดามารดาเขาประกาศไหม กูต้องการดัง กูประกาศไปตั้งแต่เดือน ธันวาคม แล้วล่ะ ก็ขอให้การผ่าตัดออกมาดี แต่ลำบากใจ ตั้งแต่อ่านตัวย่อคราวที่แล้ว แล้ว ในช่วงเวลานี้ รู้กันหมดแล้ว วันนี้ส่งกำลังใจให้น้อง เชื่อว่าวันนึง น้องจำเป็นต้องกลับมาแข็งแรง อ๋อม รักการแสดง สิ่งที่เขาบอกตลอดว่า ออกไปเขาจะมีงานไหม ก็ค้ำประกันว่า ถ้าหากกูยังอยู่ในแวดวง แกมีงานแน่นอน

“แทน ธนัชชา” ถูกจับผิด โพสต์คำคมในไอจีสตอรี่ ก่อนลบทิ้ง

ขบวนรถทัวร์เริ่มลง “แทน ธนัชชา จันทร์งาม” นักแสดงในสังกัดช่องดังอย่างหนัก ภายหลังจากที่ชาวเน็ตชี้เป้า ว่าเธอเป็นสาวในคำใบ้เขย่าขาเตียงสาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับสามี “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” เหตุฝ่ายน็อต วิศรุต เข้าไปกดไลก์กระจายใต้รูปของสาวแทน

ล่าสุด สาวแทน ได้โพสต์คำคมในไอจีสตอรี่ “ไม่ใช่งามด้วยสังขารร่างกาย ไม่ใช่งามด้วยผิวหนัง แต่งามด้วยความเบิกบานอยู่ในใจ” แต่ล่าสุดคำคมดังกล่าว ได้หายไปจากไอจีของเจ้าตัวแล้ว

ธนัชชา จันทร์งาม

“ธนัชชา” งานเข้า! โดนโยงปมข่าวลือ “น็อต-ชมพู่”

ชาวเน็ตถามใช่ไม่ใช่? ฝ่ายชายกดไลก์แทบทุกรูป จากข่าวเม้าธ์สะเทือนวงการบันเทิง สามีนางเอกดังนอกใจแอบมีบ้านเล็ก แถมยังหลงสาวบ้านเล็กแบบสุดๆ ด้วยเหตุว่าโปรไฟล์ดีเพียบพร้อม ก็ทำเอาชาวเน็ตเดาไปกันต่างๆ นานา ว่าจะเป็นสามีของดาราคนไหน ก่อนเพจหนึ่งจะออกมาใบ้เพิ่มว่า “ป้าข้างบ้านแอบบอก คู่รักดาราผัวเอียงซ้าย ไม่ใช่ ป-ก แต่เป็น คนที่ชอบบินต่างประเทศบ่อยๆ อุ๊ย! #หนาวแสงนีออน” พร้อมคอมเมนต์เพิ่มว่า “เเล้วคือพึ่งรู้ว่า รับส่งแถวๆ 107 อุ๊ย!”

ซึ่งงานนี้หลายๆ คนก็พุ่งเป้าไปที่คู่ของซุปตาร์ตัวแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับสามี “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ด้วยเหตุว่าฝ่ายชายนั่นทำธุรกิจเกี่ยวกับหลอดไฟ โยงเข้ากับคำใบ้ #หนาวแสงนีออน พอดิบพอดี แล้วก็สำหรับสาวผู้ต้องสงสัย ชาว TikTok ก็ชี้เป้ามาที่ดาราหน้าใหม่ ภายใต้สังกัดช่อง ONE31 อย่าง “ธนัชชา จันทร์งาม” สาวสวยมากความสามารถ ที่พึ่งสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรี จากภาควิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มาหมาดๆ

โดยหนึ่งในสาเหตุที่เดากันไปว่า ใช่เธอคนนี้ ก็เนื่องจาก หนุ่มน็อต มีการกดไลก์ภาพ ในอินสตาแกรมของ สาวแทน เกือบทุกโพสต์ ซึ่งก็แน่นอนว่าในตอนนี้ในอินตราแกรมของเจ้าตัว ก็โดยทัวร์ลงยับ

ชาวเน็ตแห่ไปถามกันให้ควั่ก ว่าตกลงใช่จริงไหม ถ้าไม่ใช่ก็ขอให้รีบปฏิเสธ …ใดๆ ก็เป็นเพียงแค่การคาดเดากันไปเองแค่นั้น เรื่องจริงคืออะไร ก็รอคอยให้ทั้งสองฝ่าย เป็นคนออกมาพูดเองดีกว่า เพราะเหตุว่าปัจจุบันนี้จะคอมเมนต์อะไร ก็จะต้องดูเงินในกระเป๋าด้วย เกิดโดนฟ้องขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน

tan thanatcha

“แทน ธนัชชา” อดีตดรัมเมเยอร์หน้าหวาน ในวันที่ทัวร์เริ่มลง

เป็นที่สนใจสำหรับข่าวลือในสังคมออนไลน์ ถึงคู่รักคนบันเทิง ที่สามีแอบไปมีบ้านเล็ก โดยมีคำใบ้ว่า “เอียงซ้าย” ออกมาจนทำเอาหลายๆ คนเดากันยกใหญ่

โดยในตอนแรกหลายๆ คนต่างก็โยงไปยังคู่ของ “ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” แล้วก็ “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์” กระทั่งนักข่าวนำเรื่องนี้ไปถามทางด้านของ “มารีน่า ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า” น้องสาวมาร์กี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่า ไม่น่าจะใช่คู่ของพี่สาวตัวเองแต่อย่างใดแน่นอน

อย่างไรก็ดี ล่าสุดกลายเป็นว่า หวยไปออกที่คู่ “ชมพู่ อารยา” กับสามี “น็อต วิศรุต” แทนเสียแล้วเมื่อหลายๆ คนโยงคู่ของทั้งสองไปยังคำใบ้เพิ่มเติมที่ว่า “หนาวแสงนีออน” เพราะเหตุว่าฝ่ายชายทำธุรกิจเกี่ยวกับหลอดไฟนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้น ถึงในตอนนี้ในสังคมออนไลน์เอง ก็ได้มีการพุ่งเป้าไปยังดาราสาวแทน หลังจากเป็นที่สังเกตว่าหนุ่มน็อตนั้น มักจะเข้าไปกดไลค์ภาพของเธอเกือบจะทุกรูป

ขณะที่ล่าสุดในอินสตราแกรมของสาวแทนเอง ก็มีคนเข้าไปแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้กันอย่างมากมาย แล้วก็ยังมีคนตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทางด้านของสาวแทนเอง ได้มีการลบภาพบางส่วนออกไป ยิ่งกว่านั้นหลายๆ คนยังเตือนสติ คนที่มีการโพสต์ข้อความด้วยว่า ควรจะรอฟังจากปากทุกคนจะดีกว่า

สำหรับ “ธนัชชา จันทร์งาม” นักแสดงช่อง One มีชื่อเสียงในฐานะเน็ตไอดอล หลังภาพเธอในระหว่างเป็นดรัมเมเยอร์ งานกีฬาจังหวัดอ่างทอง เผยแพร่ออกมาจนหลายๆ คนเรียกเธอว่า “แฝดคิมเบอร์ลี่”

แล้วหลังจากนั้นเจ้าตัวก็มีผลงานในวงการบันเทิง อาทิ นางเอก MV เพลง “เพิ่งรู้ตัว” ผลงานเพลงจาก “มาตัง ระดับดาว” และอีกหนึ่งบทบาทที่หลายๆ คนติดตามเธอจาก IG @tan_thanatcha ก็คือการเข้าครัว ทำขนมหวาน กับโรงเรียนสอนทำอาหารระดับ world class อย่าง “เลอ กอร์ดอง เบลอ (Le Cordon Bleu)”

Thanatcha Janngam

“ธนัชชา จันทร์งาม” ยิ่งรู้จัก…ยิ่งรัก สวย เก่ง ครบเครื่อง โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

กลายเป็นชื่อที่หลายๆ คนรู้จัก แล้วก็อยากทำความรู้จักภายในชั่วข้ามคืน สำหรับ แทน-ธนัชชา จันทร์งาม สาวไทยแท้ แต่หน้าลูกครึ่ง เจ้าของความสูง 175 เซนติเมตร ที่มีดีกรีเป็นถึง นิวเจนเนอร์เรชั่น ช่อง ONE31

สำหรับประวัติส่วนตัว ธนัชชา จันทร์งาม เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2541 และจบการศึกษาชั้นมัธยมจาก โรงเรียนสตรีอ่างทอง ในสายวิทย์-คณิต อีกทั้งเธอยังมีนิสัยร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย รวมทั้งชื่นชอบการร่วมกิจกรรม และมีความกล้าแสดงออกตั้งแต่ยังเด็ก

ขณะที่การศึกษาระดับปริญญา แทน ธนัชชา จบปริญญาตรี จากภาควิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ อีกทั้งยังได้มีโอกาสเข้าศึกษาเพิ่มเติม ในโรงเรียนสอนทำอาหารระดับ world class อย่าง เลอ กอร์ดอง เบลอ อีกด้วย

และด้วยหน้าตา บวกกับบุคลิกที่โดดเด่นจึงทำให้ สาวแทน ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมการประกวดสาวงามในหลากหลายเวที อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัลใหญ่กลับมาครองได้อยู่หลายครั้ง เช่น นางงามสวนนกชัยนาท, รองอันดับ 1 Miss Motor Show 2016, TOP 10 Thaisupermodel 2015, ชนะเลิศการประกวด Jaymart Mobile 2016 รวมถึงแสดงมิวสิควิดีโอเพลง เพิ่งรู้ตัว ของ มาตัง ระดับดาว ผู้ชนะจากการแข่งขันในรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 11

ซึ่งนั่นถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญที่ทำให้ ธนัชชา ได้ก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างจริงจัง ก่อนที่จะได้รับโอกาสให้ร่วมเป็น 1 ในนักแสดงสังกัดช่อง 3 กระทั่งภายหลังเธอได้ตัดสินใจย้ายมายัง ช่อง ONE31

เรียกได้ว่าชีวิตของสาวแทน นั้นโดดเด่นและก็น่าสนใจมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องของหน้าตาความสวยแค่นั้น แต่ทว่าความสามารถของเธอ รวมถึงพัฒนาการในการพิสูจน์ตนเองผ่านการประกวดในหลากหลายเวที จนกระทั่งถึงวันที่เส้นทาง ในวงการบันเทิง ได้เปิดประตูต้อนรับเธออย่างเป็นทางการ ก็ยิ่งทำให้เราอยากรู้จัก และอยากที่จะเฝ้าดูการเติบโตของ สาวแทน ไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ ที่น่าจับตามองจริงๆ


ขอบคุณรูปภาพที่นำมาจากอินสตาแกรม @tan_thanatcha

ตะวัน-แบม เสี่ยงหัวใจหยุดเต้น และประกาศไม่รับโพแทสเซียมอีก หลังทราบว่า ยังมีคนไม่ได้ประกันตัว

ตะวัน-แบม วันที่ 8 ของการอดน้ำและก็ของกิน ของตะวัน—ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม—อรวรรณ ภู่พงษ์ แพทย์แจ้งว่า ทั้งคู่มีความเสี่ยงที่หัวใจหยุดเต้น แต่ตะวันและแบมก็ยังรับรองที่จะไม่รับการให้น้ำและของกินไม่ว่าจะเป็นในช่องทางใด และไม่รับการรักษา

ทนายของทั้งคู่ ชี้แจงว่า คำถามแรกที่ทั้งสองเอ่ยถามคือ มีเพื่อนได้ประกันตัวไหม ซึ่งทนายได้แจ้งตอบว่าไม่มี พร้อมกับรานงานคำบัญชาประกันของศาลอาญาซึ่งยกทุกคำขอในวันนี้ให้ทั้งคู่ฟัง

มายด์ ยืนหยุดขัง

ส่วนของอาการทั้งสองนั้น มีอาการปากแห้ง ใบหน้าซีด

หากจะลุกไปไหนจะต้องใช้เครื่องช่วยพยุง รู้สึกอ่อนแรงทั้งที่พักผ่อนอยู่เฉยๆและตะวันมีลักษณะอาการบวมที่รอบๆใต้คอ ระหว่างคอและกราม ซึ่งแพทย์คาดว่าเหนือชั้นกว่าน้ำเหลือง หากบวมกว่านี้บางทีอาจจำเป็นต้องตรวจเพราะเหตุว่าเสี่ยงติดเชื้อ

ถ้อยแถลงบอกว่า ตะวันและแบมมีลักษณะปวดท้องลมตีขึ้นลิ้นปี่ เป็นการปวดท้องทรมารเป็นระยะๆอยู่ทั้งวัน รวมทั้งจากความทุกข์ทรมานมรมานทำให้ตกลงสารภาพยาลดกรดเพื่อลดความทรมานจากการเจ็บท้องและก็ทำให้หลับได้บ้าง นอกเหนือจากนี้ ทั้งคู่มีอาการโพแทสเซียมต่ำและได้รับแจ้งความเข้าขั้นความเสี่ยงหัวใจหยุดเต้น โดยวันนี้แบมได้รับโพแทสเซียม แต่ตะวันปฏิเสธไม่รับโพแทสเซียม อีกทั้ง ทั้งคู่ยังรับรองไม่รับอาหารทางหลอดใดๆและไม่รับการดูแลรักษา

“หลังจากได้รับการแจ้งรายงานผลประกันตัวนักโทษการเมืองรายอื่น ทั้งคู่ได้แจ้งว่ามีความต้องการที่จะยกระดับการต่อสู้ของตน กล่าวคือจะไม่รับโพแทสเซียมอีกต่อไป แล้วซึ่งเบื้องต้นทนายได้แจ้งว่า ขอให้รอผลการอุทธรณ์ในคดีที่ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันไปก่อน”

นอกจากนี้ แถลงยังระบุว่า ทั้งสองอยากสื่อสารกับภายนอกว่า กำลังใจของทั้งคู่ดีมาก แต่ร่างกายไม่รู้ว่าไหวถึงไหน ซึ่งทั้งคู่รู้มาตลอดว่าทุกวินาทีคือการนับถอยหลังของการมีชีวิต แต่ต่อให้รู้ก็สู้อีก

“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เจตนารมณ์ยังเหมือนเดิมไม่ได้เกี่ยวกับทนายความหรือบุคคลใดอื่น พวกหนูตัดสินใจกันเองและจะไม่ให้ค่าอะไร” ตะวันกล่าวกับคนภายนอก

ขณะที่แบม กล่าวว่า “สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือการโทษเหยื่อ ควรไปโทษต้นตอของปัญหา ซึ่งไม่ใช่แบมกับตะวัน”

“พวกหนูอยากบอกว่าเชื่อใจทุกคน เชื่อใจว่าถ้าวันนึงเราชนะ เราจะได้เจอกันที่ปลายทาง รู้ว่าความทรมานของพวกหนูคือความทรมานของทุกคน แต่ขอให้ทุกคนเชื่อใจพวกหนู พวกหนูก็เชื่อใจทุกคนข้างนอก”

ตอนท้ายของแถลงการณ์ ทั้งสองได้แสดงความจำนงค์ว่า จะไม่มีการขอรับบริจาคใดๆ และไม่ต้องการให้มีการบริจาคในนามของทั้งคู่ และขอให้เอาปัจจัยและแรงกำลังไปช่วยเหลือคนอื่นที่ยังขาดแคลนและมีความต้องการมากกว่าพวกตน

“ปี 2549 เราสูญเสียลุงนวมทอง เมื่อสองปีที่แล้ว เราสูญเสียคุณคณากร วันนี้เราจะไม่ยอมสูญเสียตะวันและแบม เป็นอันขาด”

วันนี้ (26 มกราคม) มีมวลชนร่วม #ยืนหยุดขัง บนสกายวอล์คปทุมวัน เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมที่ประกาศอดอาหาร

ตลอดกิจกรรมมีหลายคนผลัดกันขึ้นกล่าวบนเวที อานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร เป็นอีกหนึ่งคนที่มวลชนจับตามอง โดยเขากล่าวเชิญชวนให้ทุกคนออกมาต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย

“เมื่อปี 2549 เราสูญเสียลุงนวมทอง เมื่อสามปีที่แล้วเราสูญเสียคุณคณากร วันนี้เราจะไม่ยอมสูญเสียตะวันและแบมเป็นอันขาด”

“ต้นทุนของพวกเรามีเยอะ ในขณะเดียวกันเขาก็ทำลายเราเยอะขึ้น ใบปอ ตะวัน แบม และอีกหลายคนก็เช่นกัน เขาเป็นตัวประกันทางการเมือง การต่อสู้หลายคนสูญเสีย เพื่อนเราโดนยิงตาบอด มีน้องโดนยิงเสียชีวิตหน้า สน.ดินแดง ป้าเป้าโดนคดีการเมือง” อานนท์กล่าว

ตะวัน-แบม ทนายอานนท์ ยืนหยุดขัง

ตะวัน-แบม “เราเริ่มจากทะลุเพดาน วันนี้เรามีทะลุแก๊ส ทะลุวัง ทะลุฟ้า”

แกนนำกลุ่มราษฎรรายนี้ ยังยกตัวอย่างกรณีของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เนักขยับเขยื้อนทางการเมือง ที่นำมา สู่พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 ซึ่งได้ผลพวงจากการเรียกร้องทางการเมืองเมื่อปี 2563 “สังคมมันได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เชื่อไปดูคอนเสิร์ตแบล็กพิ้งค์ ไม่เชื่อลองไปดูในโรงภาพยนต์ ”

อานนท์ ยังพูดว่า ได้รับการติดต่อสายจากพรรคเพื่อไทย ว่าไม่เกินพรุ่งนี้บรรดาฝ่ายค้านทุกพรรค จะแถลงการณ์สนับสนุนการต่อสู้ของ #ตะวันแบม ทั้งยังกำหนดเพราะ พรรคก้าวไกลจะเสนอให้แก้ไข ม.112 ก้าวไกล เป็นมาตรฐานต่ำสุด และหากเป็นไปได้ คือ การยกเลิก

ตะวัน-แบม อดอาหาร

“[ตุลาการ] ลองส่องกระจกมองดูตัวเอง ว่า ณ วันนี้ พวกคุณยังทำงานอยู่บนจรรยาบรรณทางอาชีพหรือเปล่า”

วันนี้ (26 มกราคม) มีมวลชนร่วม #ยืนหยุดขัง บนสกายวอล์คปทุมวัน เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวัน–ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม–อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมที่ประกาศอดอาหาร

ระหว่างกิจกรรม มายด์—ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำราษฎร ได้ขึ้นกล่าวบนเวที โดยกล่าวถึงฝ่ายตุลาการ ระบุว่า “ลองดูกระจกแล้วดูตัวเอง ว่า ณ วันนี้ พวกคุณยังทำงานอยู่บนจรรยาบรรณทางอาชีพหรือเปล่า พวกคุณยังยึดมั่นตามหลักการเมื่อครั้งที่พวกคุณเรียนก่อนหน้าที่จะมาทำงานหรือเปล่า ว่าพวกคุณจะต้องยังอยู่ไว้ซึ่งความยุติธรรมในประเทศนี้ เพื่อให้คนทุกคนเป็นคนเท่าเทียมกันจริงๆคุณยังทำแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?

“ตุลาการต้องละอายใจบ้าง ที่คน 3 คน [ตะวัน–แบม–สิทธิโชค] ต้องเอาต้นทุนชีวิตของเขามาแลก กับการมาบืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมตอนนี้มันไม่ยุติธรรม และมันต้องเกิดการปฏิรูป

“หลายคนคงมีข้อสงสัยกับสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง มันไม่ผิดเลย เราทุกคนต่างใช้วิธีการใดก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องสนใจ คือข้อเรียกร้องที่พวกเขายื่น ที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม หยุดดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน และเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่อยากเสนอตัวมาเป็นผู้แทน ต้องยกเลิก ม.112-ม.116 ข้อเรียกร้องเหล่านี้ต่างหากที่เราต้องให้ความสนใจ

“คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่คุณต้องสนใจและวิเคราะห์มัน ถ้าเห็นด้วย ก็ต้องเป็นส่วนนึงที่ส่งเสียงร่วมมือกับพวกเขา” มายด์ย้ำ

ที่มา TheMatter.co

“ณวัฒน์” ลั่นไม่เอานางงาม จาก 2 เวทีใหญ่ เบื่อโดนด่า แถมเอาสมบัติที่ปั้นมา ไปใช้อีก

ณวัฒน์ ประกาศชัด ไม่ขอเอานางงามจากเวที MUT และ นางสาวไทย เข้าแข่งขันเวทีของตน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป บอกเบื่อเหลือทนกับการที่เอาตนไปด่าทอ แถมยังเอาผลงาน และก็ สมบัติที่ตนอุตส่าห์สร้างมาไปอีก บอก หากอยากทำก็ให้สร้างเอาเองบ้าง

หลังจากที่เวทีกองประกวด Miss Grand Thailand ของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ออกจดหมายประกาศกระจ่างแจ้งว่า จากนี้จะไม่รับนางงามที่มาจากเวที Miss Universe Thailand ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และ นางสาวไทย ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป เข้าแข่งขันเวทีตนเด็ดขาด ล่าสุด เจ้าตัวมาออกรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 8 ณ อาร์เอส กรุ๊ป ถนนประเสริฐมนูกิจ ย้ำชัด ถึงต้นเหตุว่า เบื่อกับการที่ต้องทนถูกอีกฝ่ายด่าอยู่เสมอๆ แถมปัจจุบัน ยังมาฉก PD ของตัวเองไปอีก

“ก็เด่นชัดครับผม ด้วยเหตุว่า เรารู้สึกว่า เราไม่ต้องการที่จะอยากมีปัญหากระทบกระแทกกระจุกกระจิก ด้วยเหตุว่าหลายคราวที่ผ่านมา พวกเราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่สัมพันธ์กัน

โดยที่มีการมีความขัดแย้งตลอด มันก็มาตลอดครับ อย่างอย่างเช่นคณะกรรมการพิเศษ ที่ไปเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เวลาไปสัมภาษณ์ ก็น่าจะสัมภาษณ์ผู้เข้าประกวด แต่สัมภาษณ์ไปได้พักนึง ก็มากระทบกระแทกด่าทอเวทีพวกเรา หากแม้จะไม่เอ่ยชื่อเวที แต่ใครก็ทราบ ว่ากำลังว่าใครอยู่ เราก็รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้ครับผม ด้วยปกติมนุษย์เรา ก็ควรมีมารยาทด้วยกัน

แล้ว เน็ตไอดอลคนนี้ ก็ด่ามาเรื่อย เราก็รู้สึกรำคาญ อย่างหงษ์ทอง ก็ไปถ่ายรูปกับเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วก็กล่าวว่า ประเดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ใหม่ด้วยกัน เรามีความคิดว่า พวกเราจากกันไม่ได้เลยหรอ มันก็เริ่มอารมณ์เสีย รำคาญ หลัง ๆ ก็จะมีระบบ 77 จังหวัดอีก ในอีกหนึ่งเวที ก็ได้ช่างเถอะ ทุกคนก็ทำได้ แต่บังเอิญว่ามีการไปติดต่อ PD พวกเราตลอดเวลา

คือ พวกเราต้องการอยู่ของเรา พวกเราสร้างมาด้วยความยากลำบาก เราก็ไม่ต้องการกระทบกระเทือนกัน เราเลยตกลงใจว่า นางงามที่จะแข่งขันเวทีมิสแกรนด์ พวกเราก็ระบุว่าหากไป 2 เวทีนี้ พวกเราจะไม่รับ แต่ก็มิได้แปลว่า ทั้งหมดนะครับ มันยังมีเวทีอีกเยอะแยะมากมาย ในประเทศไทย เพียงแต่พวกเราเหน็ดเหนื่อยแล้ว ที่จะถูกการกระทบกระแทก และก็ ถูกการใช้งานในวัตถุดิบที่มันใกล้เคียงกันเหลือเกิน”

2 ณวัฒน์

ณวัฒน์ บอกทุกคนมีทางเลือก ตนก็มีสิทธิเลือกเหมือนกัน

“ก็จำเป็นต้องยอมรับว่า เวทีมิสแกรนด์ เป็นเวทีที่กระจ่างที่สุด อะไรที่อยากได้ ไม่อยากได้ พวกเราก็จะบอกแจ่มกระจ่าง เคสนี้พวกเราก็บอกแน่ชัดว่าเราอยากจะอยู่ของเราตามลำพัง ไม่ต้องการเกี่ยวพันกับใคร

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 เวที ที่พวกเราประกาศไป เนื่องจากว่าหลังๆมานี่พวกเราก็ลงทุน และก็ปฏิบัติงานของเราออกจะหนัก ใครจะทำเวที 77 จังหวัด อย่างไรพวกเราก็ได้หมด บางคนพูดว่า เราออกกฎมา เพื่อบังคับไม่ให้ผู้หญิงมีทางเลือกบ้าง พวกเรามิได้กล่าวว่าห้ามไปนะครับ บางคนพูดเอาแต่ได้ เราไม่เคยที่จะกล่าวว่าห้ามไป แต่พวกเราบอกว่าให้เลือกไป จะเลือกไปที่ไหนก็ได้ ทุกเวทีในประเทศไทย แต่ถ้าเกิดเราบอก 2 เวทีนี้ คุณจะเลือกไปก็ได้

ไม่เลือกเราก็ไม่ใช่เรื่องผิด เรามิได้สั่งห้ามเลือก พวกเราก็มีสิทธิที่จะเลือก คุณสมบัติในสิ่งที่พวกเราต้องการได้ คุณเองมีโอกาสที่จะเลือก คุณก็เลือกเวทีที่คุณต้องการได้ ผมว่ามันก็แฟร์พอสมควร แต่ถ้าเกิดจะให้พวกเรายอมรับทุกอย่าง จำต้องยอม อดทนทุกอย่าง จำเป็นต้องถูกกระทบกระแทก ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการที่เชิญชวน

ใครมานั่งด่าพวกเรา แล้ว 77 จังหวัด จะต้องมาตอด PD เรา แล้วนางงาม มันก็วนอยู่อย่างงี้ พวกเราก็เบื่อ เนื่องจากเวทีพวกเรา กว่าจะเทรนด์นางงามมาได้ ต่อให้เขาตกรอบ แต่พวกเรา ก็จำต้องใช้เวลาสำหรับในการเทรนด์ มีต้นทุนอยู่ร่วมกันเกือบจะเดือน บอกง่าย ๆ ว่าเบื่อนะครับ”

ตั้งกฎห้าม PD ของตนเองไปเกี่ยวเนื่องเด็ดขาด

“ถามว่า ทำไมถึงต้องเป็น 2 เวทีนี้ ก็เวทีอื่น เขาไม่ได้มีอะไร คือการเชิญเน็ตไอดอลคนนึง มาเป็นกรรมการ น่าจะพูดถึงการสัมภาษณ์นางงาม ที่จะให้ผ่านเข้ารอบ แต่กลับลุกขึ้นมาด่าเวทีผม ต่อให้ไม่พูดชื่อเวที 100 คน ล้านคนที่ฟังอยู่ ก็รู้ว่าด่าใคร อันนี้ผมว่า มันไม่ยุติธรรม ควรที่จะมีการห้ามปราม ห้ามทำ หรือ สั่งอะไรใด ๆ แต่กลับเป็นที่สนุกสนานร่าเริง ของคณะกรรมการ และผู้ครอบครองเวที

เป็นอะไรเหรอ เห็นเราเป็นมิสแกรนด์บันเทิงศิลป์ หรือ ยังไง บอกตรง ๆ ว่าเราเบื่อ พวกเราไม่ต้องการที่จะอยากเกี่ยวข้อง ที่ออกมานี่ บอกตรง ๆ ว่าเบื่อ ไม่ต้องการยุ่ง ก็เท่านั้นเองนะครับ

อีกเวทีนึงก็ 77 จังหวัด เช่นเดียวกัน รวมทั้งยังติดต่อ PD พวกเราเยอะมาก เรามึนหัว ถึงจำต้องออกกฎว่า ห้ามมี PD เข้าไปเกี่ยวโยง กว่าจะสร้าง PD ได้ทุกคน ต้องเข้าใจนะครับ ว่ามิสแกรนด์ปีนี้ ปีที่ 11 ระบบจังหวัดมีมา 8 ปี บางบุคคลอยู่กับเรามาตั้งแต่ปีแรก จนกระทั่งปีนี้ อย่างเช่นภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่ ใครที่เก่ง ๆ ใครที่มีนางงามงาม ๆ ใครที่มีฐานะ หรือ มีความคล่องตัวสำหรับในการจัดแจงประกวดที่ดี

แน่ๆมันก็เป็นจุดมุ่งหมายของทุกคน แต่อยากให้ทุกคนเคารพในสิ่งที่เราสร้าง ทุกคนสามารถสร้างด้วยตัวเองได้ ด้วยเหตุนี้ คุณต้องใช้ความรู้ในการสร้าง ไม่มีอะไรดีหรอกนะครับถ้าคุณจะไปเอาของใครเขามา แต่ว่าสร้างจะอยู่กับพวกเราตลอดไป

ผมอยากให้ทุกคนศึกษาวัฒนธรรมอย่างนี้บ้าง ไม่ใช่เห็นใครดี ก็อยากจะดีกับเขาด้วย มันก็ไม่เหมาะสม มันก็ทำให้เราอารมณ์เสีย พอเราหงุดหงิดปั๊บ ถ้าเกิดเราไม่ประกาศไป 77 คน 77 จังหวัด ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางคนไปช่วยด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตาม มันก็ไม่ถูก

และก็ เวทีเรา คนละสไตล์ วัตถุประสงค์ก็ไม่ใช่ และก็ เราก็เน้นย้ำว่า เวทีมิสแกรนด์ เป็นเวที เพื่อประชาธิปไตยแค่นั้น มันก็ชัดเจนอยู่แล้วครับ”

บอกแต่ละเวทีจำต้องสร้างคนของตนบ้าง

“ตัดสินใจไม่นานนะครับ รำคาญสักพัก ก็ตกลงใจได้เลยนะครับ ต่อแต่นี้ไป เราจะไม่ยอมทนอะไรก็แล้วแต่อีกแล้ว เนื่องจาก เราทำทุกอย่าง เพื่อปรับปรุงของเรานะ เราอยู่ในกรอบของพวกเราตั้งแต่หลังจากมิสยูนิเวิร์สเปลี่ยนผู้ครอบครอง พวกเราไม่ได้โฟกัสในการแข่งกับเวทีอื่นแล้ว เราจะปกป้องทรัพย์สมบัติของเราที่เป็นแกรนด์ทุกอย่าง ไม่ให้ใครมารบกวนเรามาก

แต่ถ้าใครจะเข้ามา พวกเราก็จะพูดว่าให้ทุกคนหยุด อยู่เท่านั้น เราจะไม่ให้ใครเอาวัฒนธรรมอะไร เข้ามาในแกรนด์ เพราะ แกรนด์เราต้องการเป็นแกรนด์จริง ๆ หลังจากนี้เป็นต้นไปเราจะดูแลตัวเองหนักขึ้นนะครับ

ถามว่า มีออกเป็นลายลักษณ์อักษรไหม สำหรับ PD และก็ คนที่จะเข้ามาแข่งขัน ตามหลักก็แค่นี้ ประกาศไปแล้วเรียบร้อยนะครับ PD กับนางงามก็ประกาศแล้ว ว่าถ้าเกิดใครผ่าน 2 เวทีนี้มา PD ก็ห้ามรับเข้ามาเป็นผู้สมัครในจังหวัดนั้น ๆ ถ้า เห็น หรือ ทราบ ก็ขอให้สละสิทธิ์ทันที แต่หากตั้งมั่น PD ก็มีความผิด ในฐานะขาดคุณสมบัติสำหรับเพื่อการร่วมมือ

ส่วน PD สามารถส่งนางงามไป 2 เวทีนั้นได้ไหม ก็ประกาศไปแล้วครับ ส่งนางงามก็ไม่ได้ครับ PD ก็ต้องเป็น PD ของเราด้วย ใครก็หวงสมบัติของใครนะครับ สร้างมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่างภูเก็ต สร้างมาตั้งแต่ยังไม่เคยคิดทำนางงาม แต่สุดท้าย ก็เห็นไปหลายเวทีอยู่เช่นกัน ก็พอแล้ว ให้เวลายืมใช้เพียงพอแล้ว ทุกคนต้องสร้างเองกันบ้างนะ สังคมมันจะได้ถาวรครับ”

เปิดเผยขอพักเพียงแค่ 2 เวทีนี้ ส่วนเวทีอื่น ยังมาได้ปกติ

“ไปได้ครับ ศาลตายายก็มาได้ คือ มาได้หมด ผมบอกแค่ 2 เวทีนี้ มิสอะไรก็มีมากมาย แค่ 2 อันนี้ ปัจจุบันนี้ขอพักก่อน เพราะ ด้วยเราไม่อยากให้มีตำหนิไปมากกว่านี้ เอาจริง ๆ แล้วเหตุผลใหญ่ คือ ปล่อยให้กรรมการมานั่งด่าผม อันนั้นก็ไม่ควรนะครับ ผมไม่กล้าทำกับใคร ถามคำถามว่า อันนั้น คือ ฟางเส้นสุดท้ายไหม ไม่ครับ ฟางเส้นแรกครับ (หัวเราะ) ฟางเส้นแรกที่รู้สึกไม่โอเค

อนาคตจะมีเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ด้วยไหม ไม่ครับ ถ้ายังไม่มีผลกระทบอะไร ก็ไม่ได้หมายถึงทุกอัน ก็ยังไปร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาหรอกนะครับ นี่ก็มิได้มีปัญหาครับผม แต่รู้สึกว่าอะไรก็โดนไปหมด อย่างเช่น ผู้ครอบครองเวทีโทรศัพท์มาหาผม เปิดสปีกเกอร์ ผมก็โดน ไม่ต้องการเล่นอะไรแล้ว ไม่ได้โกรธเป็นส่วนตัวนะ แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องรักษาเพอร์ฟอร์แมนซ์ ของ MGI เพราะปีนี้ เรามีแพลน ที่จะเติบโตค่อนข้างเยอะครับ”

1 ณวัฒน์

เผยตอนนี้จัดการฟ้องไปบ้างแล้ว แต่ถ้าหากมีอีกก็ฟ้องอีก

“มันก็ไม่ได้พูดถึงขนาดผิดกฎหมายหรอกครับ พวกเราก็ทนฟังต่อไป ถ้าอะไรที่มันจะมีผลให้ ผลประกอบการของพวกเราต้องมีเกี่ยว เราก็ออกกฎกติกาไปเรื่อยๆ ก็เพียงเท่านั้น แต่ส่วนคนที่ถึงขั้นอยู่ในข่ายหมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย พวกเราก็ดำเนินการอยู่แล้ว ในขณะนี้ ซึ่งก็ต้องโดนอยู่แล้วนะครับ

ตอนนี้ได้แจ้งความแล้ว เป็นที่เรียบร้อยในบางส่วน คือ จะต้องกล่าวว่ามันมีทั้งจำเป็นต้องฟ้องที่โรงพัก และฟ้องที่ศาลด้วย ที่สถานีตำรวจในเวลานี้ก็ได้มีการฟ้องไปในพื้นฐานเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้า เดี๋ยวจะอัปเดตให้ เนื่องจากว่า ผมมิได้เป็นสไตล์ที่ฟ้องแล้วเอามาโชว์ เพื่อคนจำต้องทราบ ผมคอยตอนไปดำเนินการ ทางด้านกฎหมายจริง ๆ ครับ แต่รับรองว่า ฟ้องแน่ๆ และฟ้องแล้วด้วยครับ

เบื้องต้นฟ้องหมิ่นประมาท ก็ค่อนข้างแน่ชัด มากมายในทุกเรื่อง รวมทั้งอย่างหมิ่นประมาทเพิ่มเติมก็ฟ้องอีก อย่างเช่น บอกว่าเกี่ยวโยงกับทอง 700 ล้าน ซึ่ง วันนั้นก็บอกแจ้งชัดว่า องค์กรพวกเราผิดจากคำพูดที่เรียกให้ทนายอีกคนนึง ไปฟ้องมา

มันก็เป็นการบอกที่แจ่มชัด ด้วยกระบวนการของมันสมบูรณ์อยู่แล้ว พึ่งจะเพิ่มเป็นโบนัส เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา คือ หากจะเพิ่ม เพิ่มได้ทุกวันแหละครับ แต่ผมก็ไม่เคยทราบเหมือนกัน ว่าเมื่อใดจะหยุดกันสักที ก็ช่างเถอะครับ สำหรับผม ก็ไม่ได้ซีเรียส แต่เสียเวลา ที่จำเป็นที่จะต้องไปศาลกัน”

บอกที่ทำ เพื่อปกป้องทรัพย์สมบัติ ณวัฒน์ ของตนเองเท่านั้น

“มิได้ว่าเราออกกฎแล้ว อยากได้นางงามใหม่ หรือ พลิกโฉมหรอกครับ แต่พวกเราหวงในทรัพย์สิน รวมทั้ง ทรัพย์สมบัติของพวกเรา ที่เราจำต้องฟื้นฟู และ พัฒนามันมา เราก็เลยต้องการที่จะคุ้มครองเอาไว้เท่านั้นเองนะครับ และไม่ต้องการให้เกี่ยวพันนะครับ คือ นางงามของเราจะไปไหนก็ได้ครับ ผมไม่ว่า

แต่ถ้าหากไปแล้ว ก็มิได้กลับมาเพียงแค่นั้นนะครับ อีกอย่างถ้าเกิดเวทีไหน จะออกกฎ ว่าไม่รับนางงามที่มาจากแกรนด์ก็ได้ครับผม มันก็เป็นสิทธิเท่าเทียมกัน ทุกคนทำได้ ใครคิดว่าคุณสมบัติข้อนึง ก็คือต้องไม่เคยสมัครเวทีมิสแกรนด์มาก่อน ก็บอกได้ครับ ไม่มีปัญหา

ความหนักใจไม่ตกอยู่ที่ผู้ประกวดหรอกครับ ยุคนี้ เขาจำเป็นต้องเลือก เขาอยากเป็นใคร เขาอยากอยู่กับใคร เขามีสิทธิในการเลือก เพราะฉะนั้น เดี๋ยวนี้ นางงาม ไม่ใช่แค่ว่าไปเดินเพื่อประกวด มันจำเป็นต้องใช้ความคิด สำหรับการคำนวณ ว่าอนาคต คืออะไรครับ

เอาจริง ๆ มันเป็นการให้เขาเลือกครับ หากคิดว่าเป็นการจำกัดสิทธิ เราเป็นบริษัทเอกชน พวกเราก็มีสิทธิที่จะเลือก ว่าจะเอา หรือไม่เอาอะไรก็ได้ นี่เป็นสิทธิโดยสมบูรณ์ แต่ถ้าพวกเราเป็นองค์กรของรัฐบาล มันก็อาจจะเป็นได้นะครับ แต่นี่ด้วยหลักการของการทำงานเอกชน เราสามารถบอกคุณสมบัติได้ ว่าเราจะไม่เอาอะไร เราจะเอาอะไร ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”

4 ณวัฒน์

บอกหากแฟนนางงามมองเรื่องสิทธิเสรีภาพ สำหรับในการสมัคร

กฎของตนเองก็จัดว่าให้สิทธิเสรีภาพสำหรับการเลือกแล้ว “ถามคำถามว่า แฟนนางงามบางส่วน มีข้อคิดเห็นว่าข้อกำหนด 2 ข้อ ขัดแย้งกับสิทธิเสรีภาพ สำหรับในการสมัครหรอ เข้าใจผิดแล้ว คำว่าสิทธิเสรีภาพ คือสิทธิเสมอภาค สำหรับเพื่อการที่คุณจะเลือก คุณจะเลือกเขา หรือ เลือกเราก็ได้ อันนี้คือสิทธิเสรีภาพ

ฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกับว่า คุณจะเลือกอะไรก็ได้ไปหมด มันไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ ด้วยเหตุว่าสิทธิ มันก็ต้องเคารพในกฎกติกาของคนอื่นด้วย ถ้าเกิดคุณอยากมาทางเราก็มาเลย แต่ถ้าหากคุณอยากไปทางเขาก็ไปเลย หรือ คุณต้องการจะไปที่อื่น อีกตั้งเยอะตั้งแยะ คุณก็ไปได้

แต่อันนี้ที่คนพูดกัน ผมว่าน่าจะเป็นแฟนๆของฝั่งนู้นมากกว่า ที่วิตกกังวลว่า อนาคตจะเป็นยังไง ก็เลยพยายามจะกล่าวว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูก มันละเมิดสิทธิบุคคลอื่น หรือ จำกัดสิทธิคนอื่น ผมไม่เคยละเมิดใคร และ ผมไม่เคยจำกัดสิทธิใคร ทุกอย่างทำด้วยการชะลอไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น รวมทั้งเขาก็ยังคงมีสิทธิที่จะเลือก สำหรับเพื่อการดำเนินชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม

เพียงแค่ว่า เราก็มีกรอบของพวกเรา ว่าพวกเราจะรับแบบนี้ ถ้าเกิดเขาทราบแล้ว พวกเรามิได้พูดย้อนหลัง พวกเราพูดตั้งแต่วันนี้ เดินต่อไปในอนาคต คนที่เคยแข่งขัน 2 เวทีนี้มาแล้ว ในอดีตก่อนหน้าที่ผ่านมามาได้หมด ไม่ได้มีปัญหาเลย เวลาเราทำอะไร เราบอกปัจจุบัน และก็ อนาคต พวกเรามิได้เอาอดีตมาด้วย เพราะฉะนั้น คุณก็สามารถแพลนชีวิตของคุณ ใน วันนี้ และก็ ในอนาคตได้ครับ”

จากหลักสำคัญดังกล่าว ยังได้บอกอีกว่า ยังไม่ถึงขนาดปลด PD ที่มีปัญหา แต่ขอคุยทั้งสองฝ่ายก่อน

ทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) เพิ่งจะส่งจดหมายมาที่ผม ผมได้ตรวจสอบ แล้วก็ ให้เจ้าหน้าที่ตอบทนายความเจมส์ไปแล้ว อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร คือ ได้คุยกับทาง PD เรียบร้อย ให้ไปสะสางภายใน 2 วัน จะสะสางด้วยวิธีไหนก็ตาม ดังเช่นว่า คืนเงินบางส่วน อะไรที่ทำไปแล้ว อะไรที่ยังไม่ทำ หรือ ทำไม่ได้ ให้ชี้แจงกันไป แต่จำเป็นที่จะต้องเคลียร์

‘เจมส์ เจตพล’ คว้าแชมป์ The Star 2022 สำเร็จ หลังฝ่าฟันมานานร่วม 10 ปี

สำเร็จ! เจมส์ เจตพล คว้าแชมป์รายการ The Star 2022 ได้สำเร็จ หลังจากรอนานเกือบ 10 ปี มินิคอนเสิร์ตรอบสุดท้าย สุดประทับใจ ก่อนคว้ารางวัลผู้ชนะ

จบลงไปเรียบร้อยแล้ว ในการแข่งขันประกวดร้องเพลง เวทีที่ยิ่งใหญ่ อีกรายการของไทย กับรายการ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022

ซึ่ง เจมส์ เจตพล กนิษฐชาต สามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันนับพันคน คว้าตำแหน่งเดอะสตาร์ไปครองได้ในที่สุด หลังชวดฝันจาก The Star 10 ในปี 2556 ไป

โดยการแข่งขันรอบไฟนอล เมื่อคืนวันที่ 22 มกราคมก่อนหน้าที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมการประกวด 2 คนสุดท้าย ได้แก่ ชินจัง ญาณาธิป หมายเลข 3 แล้วก็ เจมส์ เจตพล หมายเลข 8 จำเป็นที่จะต้องทำการแสดง มินิคอนเสิร์ตคนละ 15 นาที

ชินจัง ใช้ชื่อมินิคอนเสิร์ตว่า ชินจังจอมเก่ง เริ่มทำการแสดง ในเพลงแรก ชินโนะสุเกะ มาด้วยความสดใส ต่อด้วยเพลง North Star และก็เพลง Please ซึ่งเป็นเพลง ที่ได้รับการโหวตมา ในเพลงนี้

ชินจังได้โชว์ความสามารถเล่นกีตาร์ เผยเสน่ห์ในอีกรูปแบบให้แฟนๆ ได้ชม ปิดท้ายด้วยเพลงรัก ซึ่งทำซึ้ง จนชินจังถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

หลังจากนั้นถึงตาของเจมส์ กับมินิคอนเสิร์ต James 10 Years After ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวใน The Star ปีที่ 10 ที่เจมส์ได้เข้ารอบ 24 คนสุดท้าย แต่ว่าไม่ได้ไปต่อเป็น 8 คนสุดท้าย

โดยเจมส์เปิดตัวมาด้วยเพลง แพ้คำว่ารัก ต่อด้วยเพลงที่ได้รับการโหวตให้ร้องคือเพลง ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ก่อนส่งท้ายบนเวที ด้วยการเล่นเปียโน ในเพลงมีแต่คิดถึง จบลงได้อย่างน่าประทับใจ

เมื่อถึงช่วงเวลา ประกาศผลสุดบีบคั้นหัวใจ ผลปรากฏว่า เจมส์ ได้เป็นผู้ชนะ คว้ารางวัล The Star คนล่าสุดของประเทศไทยไปครองได้สำเร็จ

โดยเจมส์ ปัจจุบันนี้อายุ 27 ปี เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2538 เขาผ่านเวทีประกวดร้องเพลงมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Star 10, Labanda, The X factor, Stage Fighter, The voice จนกระทั่งคว้าแชมป์รายการเดอะสตาร์ 2022 ตามความฝันตลอด 10 ปีของเจมส์จนได้

เจตพล กนิษฐชาต

เปิดประวัติ ‘เจมส์ เจตพล’ เจ้าของแชมป์ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022

ประกาศผลกันไป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรายการประกวดร้องเพลง “The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022” เมื่อค่ำวันที่ 22 มกราคม 2566 ก่อนหน้าที่ผ่านมา

โดยคนที่สามารถเรียกคะแนนโหวตจากคนประเทศไทยไปได้มากที่สุด และเป็นแชมป์ The Star ในปีนี้ก็คือ “เจมส์-เจตพล กนิษฐชาต” ผู้เข้าประกวดหมายเลข 8 นั่นเอง

เรียกได้ว่า เป็นการจัดมินิคินเสิร์ต “Jame’s 10 Years After” ที่โชว์พลังเสียงร้องจาก “เจมส์ The Star” และเพอร์ฟอร์แมนซ์เปี่ยมพลัง ที่ทุ่มเทฝึกฝน มานานนับ 10 ปี

ซึ่งในวันนี้ เราขอพาทุกคน ย้อนไปทำความรู้จัก เจมส์ เจ้าของความฝัน 10 ปี กับการเป็นนักร้อง มากความสามารถคนนี้กันให้มากเพิ่มขึ้น

“เจมส์ เจตพล กนิษฐชาต” หรือตำแหน่งในขณะนี้คือ “เจมส์ The Star” เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2538 ปัจจุบันอายุ 27 ปี เป็นตัวแทนเวทีประกวดร้องเพลง The Star 2022 จากภาคกลาง

เจมส์จบการศึกษาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหิดล วิชาเอกวอยซ์ ก่อนที่จะมาประกวด เวทีเดอะสตาร์ เจมส์เป็นครูสอนร้องเพลงมาก่อน และก็เนื่องจากครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน เจมส์จึงจะต้องทำงานพิเศษ พร้อมทั้งฝึกฝนความสามารถทางดนตรี

แชมป์เดอะสตาร์2022

เมื่อปี 2559 เจมส์ได้ไปปรากฎตัวในเวที La Banda Thailand ซุป’ตาร์ บอยแบนด์

โดยเจมส์ได้โชว์ ให้เห็นน้ำเสียงอันไพเราะของเขาผ่าน เพลงทำไมต้องเธอ ของ เบิร์ด ธงไชย แล้วหลังจากนั้นในปี 2560 เจมส์ก็ได้ไปปรากฎตัวอีกที บนเวที The X Factor Thailand ซีซั่น 1 และรายการ STAGE FIGHTER ไมค์ คู่ สู้ฟัด ในปี 2562

ถึงแม้ว่าเจมส์จะผ่านเวทีการประกวดร้องเพลง มาแล้วมากมาย แต่ว่าเวทีที่ทำให้เจมส์เป็นที่รู้จัก ในฐานะนักร้อง อย่างจริงจัง คือเวที The Voice Thailand 2019 โดยในการประกวดร้องเพลง เวทีเดอะวอยซ์ เจมส์เลือกร้องเพลง ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ของวง Potato และก็ด้วยน้ำเสียงทรงพลังของเจมส์ ทำให้โค้ชทั้ง 4 กดเลือกเจมส์ ทว่าสุดท้ายแล้ว เจมส์ก็ได้ไปเป็นลูกทีมของโค้ชโจอี้บอย

แม้ว่าเจมส์จะไม่ได้ได้รับตำแหน่งแชมป์ จากรายการเดอะวอยซ์ 2019 แต่ว่าในการประกวดครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสที่ทำให้เจมส์ ได้ออกซิงเกิลของตนเอง ภายใต้การดูแลของ Basecamp Records ชื่อเพลงว่า “เวลาที่เหลือ” แต่หลังจากปล่อยซิงเกิลดังกล่าว เจมส์ก็ห่างหายไปจาก วงการประกวดร้องเพลงอยู่พักใหญ่

กระทั่งเจมส์ กลับเข้ามาเป็น ผู้เข้าร่วมแข่งขันเวที The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 โดยเจมส์สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย ร่วมกับผู้เข้าร่วมแข่งขันคนหนึ่งคือ ชินจัง ญาณาธิป ใจจุล แล้วก็สุดท้ายเจมส์ก็สามารถ คว้าตำแหน่งเดอะสตาร์มาครองได้ในที่สุด

และก็โอกาสจากการเป็นแชมป์เดอะสตาร์ในครั้งนี้ เจมส์ก็ได้ออกซิงเกิลของตัวเองอีกครั้ง โดยผลงานทั้งหมดของเจมส์ จะอยู่ภายใต้การดูแลของ One Music สำหรับเจมส์นับได้ว่าเป็นนักร้องอีกคนหนึ่ง ในวงการดนตรีประเทศไทยที่สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้ แม้ว่าจะใช้เวลานานกว่า 10 ปีก็ตาม นับว่าเป็นแบบอย่าง แล้วก็แรงบันดาลใจของใครหลายคนเลยทีเดียว

รัสเซีย ยูเครน : รัฐมนตรีมหาดไทยของยูเครน เสียชีวิตจากเฮลิคอปเตอร์ตก

รัสเซีย ยูเครน บุคคลสำคัญ 3 คน ใน กระทรวงมหาดไทย ของ ยูเครน เสียชีวิต จาก เหตุ เฮลิคอปเตอร์ ตก ใกล้ กับ โรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาล ชาน กรุงเคียฟ ด้าน ทิศตะวันออก

นายเดนิส โมนาสเตียร์สกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ของ ยูเครน วัย 42 ปี เสียชีวิตพร้อมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วก็ปลัดกระทรวง

ข้อมูลล่าสุดจากทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า เหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่เมืองโบรวารี มีคนตายทั้งหมด 16 คน รวมทั้งเด็ก 3 คน

นายโมนาสเตียร์สกี เป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงที่สุดที่เสียชีวิตนับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มต้นขึ้น

คีรีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้าทำเนียบผู้นำ กล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกำลังเดินทางไปพื้นที่ที่มีการสู้รบในสงคราม ขณะเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

การเสียชีวิตของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน สร้างความรู้สึกไม่พอใจต่อรัฐบาลยูเครนมาก ด้วยเหตุว่ารัฐมนตรีมหาดไทยมีบทบาทที่สำคัญในการรักษาความมั่นคงยั่งยืนแล้วก็ดูแลสำนักงานตำรวจในช่วงสงคราม ผู้นำโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้พูดถึงโศกนาฏกรรมนี้ว่า ได้ทำให้ “เหล่าผู้รักชาติอย่างตามที่เป็นจริง” เสียชีวิต

ปัจจุบันนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า การตกของเฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่ผู้ที่เห็นเรื่องก็บอกว่า สงครามที่รัสเซียก่อขึ้นเป็นสาเหตุของหายนะคราวนี้

รัสเซีย ยูเครน โรงเรียนอนุบาลยูเครน

“หมอกหนามากและไม่มีไฟฟ้า เมื่อไม่มีไฟ ก็ไม่มีแสงสว่างตามอาคาร” โวโลดีมีร์ แยร์เมอเลนโก ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวกับบีบีซี

เจ้าหน้าที่คนสำคัญเดินทางไปทั้งประเทศยูเครนโดยใช้เฮลิคอปเตอร์บินในระดับที่ถือว่าต่ำ ทำให้มีความเสี่ยงหลายเรื่อง

ซาก เฮลิคอปเตอร์ ยัง พอ หลงเหลือ ให้ เห็นองค์ประกอบบางชิ้นได้รวมถึง ประตูแล้วก็หนึ่งในใบพัดที่ตกใส่หลังคารถยนต์คันหนึ่ง ขณะที่มีศพที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มฟอยล์ 3 ศพ อยู่ถัดไป

อาคารของโรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาลได้รับความเสื่อมโทรมอย่างหนักจากการตกของเฮลิคอปเตอร์

รัฐมนตรีมหาดไทยวัย 42 ปี ผู้นี้ เป็นสมาชิกคนสำคัญของคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน

ชาวยูเครนพบเห็นเขาอยู่เสมอๆในช่วงสงคราม จากการให้ข้อมูลล่าสุดแก่ประชาชนเกี่ยวกับจำนวนคนบาดเจ็บและก็เสียชีวิตจากการจู่โจมด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย นับตั้งแต่ยูเครนถูกรุกรานในเดือน ก.พ. 2022

รายงานหลายแหล่งของยูเครนกล่าวว่า ผู้ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ทางการของกระทรวง 6 คนรวมทั้งลูกเรือ 3 คน

นายเยฟเฮน เยนิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เสียชีวิตพร้อมด้วยนายยัวรี ลูบโควิช ปลัดกระทรวงกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดระเบียบงานของกระทรวง

ก่อน ที่ จะ ย้าย มา ที่ กระทรวงมหาดไทย นายเยนิน เคย ช่วย ทำ หน้า ที่ เป็นผู้แทน ของ รัฐบาล ยูเครน ใน ต่างถิ่น

นายทีโมเชนโก กล่าวว่า การสูญเสียหัวหน้าจะไม่ทำให้เกิดผลเสียต่องานของกระทรวงมหาดไทย แต่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลต่างก็ตกใจอย่างมาก เห็นได้จากการแสดงออกผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ

มารีอา เมอเซนเซวา ส.ส.ที่เป็นเพื่อนของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยผู้ล่วงลับ พูดว่า นี่คือโศกนาฏกรรมสำหรับทุกคน เพราะว่ารัฐมนตรีมหาดไทยมีบทบาทสำคัญสำหรับเพื่อการต่อกรของยูเครนต่อการบุกของรัสเซีย

“เขาตอบเพื่อนร่วมงาน เพื่อนและครอบครัวตลอด 24 ชั่วโมง เขาใกล้ชิดกับประธานาธิบดีเซเลนสกีตั้งแต่วันแรกที่มีการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี” เธอกล่าวกับบีบีซี

อีฮอร์ คลีเมนโก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของยูเครน เขียนในเฟซบุ๊กว่า เฮลิคอปเตอร์ที่เกิดเหตุเป็นของหน่วยฉุกเฉินของยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการคนอื่น ๆ บอกว่า ดูเหมือนจะเป็นอากาศยานซูเปอร์พูมาของฝรั่งเศส

รัสเซีย ยูเครน

รัสเซีย ยูเครน ขณะเกิดเหตุ บรรดาพ่อแม่กำลังไปส่งลูก ๆ ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ ก่อนที่จะไปทำงาน

“ความเจ็บปวดนี้ไม่อาจบรรยายได้” ประธานาธิบดียูเครนกล่าว “เฮลิคอปเตอร์ตกใส่บริเวณพื้นที่ของหนึ่งในโรงเรียนอนุบาล”

ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนอยู่บนพื้นดิน รวมถึงเด็ก 3 คน ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 12 คน จาก 30 คน บนพื้นดินเป็นวัยรุ่น

ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า นักบินได้พยายามที่จะหลบหลีกอาคารสูงหลายแห่ง ก่อนที่จะตกลงที่บริเวณใกล้กับโรงเรียนอนุบาลแทน

“มีแสงสว่างวาบขนาดใหญ่” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ระบุว่า เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลดังกล่าวเล่า “จากนั้น หลังจากแสงสว่าง เราก็ได้ยินเสียงระเบิด เรานอนลง แล้วก็ได้อพยพไปที่หลุมหลบภัยอย่างรวดเร็ว”

อันทอน เฮอราชเชนโก ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ชายทั้งสามเป็นเพื่อนและเป็นรัฐบุรุษ ที่ทำงานเพื่อทำให้ยูเครนแข็งแกร่งขึ้น

“เราจะจดจำพวกคุณเสมอ ครอบครัวของคุณจะได้รับการดูแล” เขาระบุทางเฟซบุ๊ก

2 รัสเซีย ยูเครน

นางเมอเซนเซวา กล่าวว่า ตอนแรกเธอคิดว่า เหตุการณ์นี้เป็นข่าวปลอม “แต่โชคร้าย มันคือเรื่องจริง”

เมื่อ 4 วันก่อน เพิ่งจะมีการโจมตียูเครนที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มสงครามคราวนี้ ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 45 คน

ขีปนาวุธของรัสเซียยิงกระหน่ำอาคารที่อยู่อาศัยในใจกลางเมืองดนีโปร ทำให้มีผู้ตาย 45 คน รวมทั้งเด็ก 6 คน

ประธานาธิบดีเซเลนสกีมีกำหนดที่จะพูดในการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรั่มในเมืองดาวอสของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ผ่านทางวิดีโอลิงก์ในช่วงค่ำวันพุธตรงเวลาเขตแดน ยูเครนได้ร้องขอชาติพระอาทิตย์กให้ส่งรถถังให้ เพื่อช่วยในการต่อกรการบุกครั้งใหม่ของรัสเซีย

คาดว่า จะมีการตัดสินใจประเด็นนี้ภายในสัปดาห์นี้ เมื่อพันธมิตรชาติตะวันตกหารือเกี่ยวกับสงครามนี้ที่ฐานทัพอากาศแรมชไตน์ในเยอรมนี

เปิดภาพพิธีตำมวลสาร พิมพ์พระสมเด็จสี่หมื่น หาคนชื่อ นิ-ยม-ชม-ชอบ นั่งประจำครก

มาร่วม เปิดภาพ พิธีตำมวลสาร (17 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวแถลงการณ์ว่า จากกรณีที่มีการขุดพบพระเครื่องลาง พระบูชา ที่ซุกอยู่ในบาตรพระ ซุกอยู่ในไห อายุกว่า 90 ปี และ ยังขุดพบ เป็นต้นว่า พระสมเด็จ พระปิดตา พระทุ่งเศรษฐี พระสมเด็จนางพญา พระซุ้มกอ พระรีลาหย่อง พระรอด พระผงสุพรรณ

รวม ๆแล้ว โดยประมาณ 2,000 องค์ อายุราว 60 – 70 ปี ใส่เอาไว้ข้างในหีบเหล็กโบราณ ซุกในดิน ใต้กำแพงแก้วดั้งเดิม ที่ชำรุดทรุดโทรมใกล้ที่จะล้มพังทลาย

โดยทางพระครู โสภณจันทรังสี เจ้าอาวาส วัดใหม่สี่หมื่น ได้ปรึกษากับทาง กรรมการวัด และก็ ญาติโยม เพื่อซ่อมแซมก่อสร้าง กำแพงแก้วขึ้นใหม่ รวมทั้ง ได้จ้าง รถแบ็คโฮ มาขุดเพื่อปรับพื้นที่จึงได้ขุดเจอพระกรุแตกดังกล่าว

จากการตรวจสอบพระเครื่องลาง พระบูชาที่พบทั้งหมด บางองค์ยังคงมีภาวะดี แต่เนื้อบาง ซึ่ง เกิดจากความชื้นที่ฝังอยู่ใต้ดินทำให้แตกหักง่าย และ บางส่วน มีสภาพแตกหัก เนื้อบิ่น ไม่สามารถเช่าบูชาตามจุดหมายของ หลวงปู่สุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส องค์แรก และก็ หลวงพ่อยง หรือ พระครู โสภณวราทร อดีตเจ้าอาวาส องค์ที่ 5 ของวัดใหม่สี่หมื่น ที่ได้นำ พระเครื่องลางต่าง ๆ

ที่สร้างโดยหลวงพ่อกรวย และก็ พระบูชาที่หลวงพ่อพิณสร้าง บรรจุไว้ภายในเจดีย์เก่า รอบอุโบสถ์ รวมทั้ง ส่วนใดส่วนหนึ่งทำช่องฝังไว้ใต้กำแพงแก้ว เพื่อหวังว่า พระจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ช่วยบูรณะปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมอุโบสถ และก็ ปรับปรุงวัด ในวันข้างหน้า

ซึ่ง โดยทางพระครูโสภณจันทรังสี เจ้าอาวาสวัดใหม่สี่หมื่น รูปปัจจุบัน จึงได้นำ พระกรุแตกทั้งหมด มาทำเป็นมวลสาร ผสมกับมวลสารดั้งเดิม

ซึ่งคาดว่า จะมีอายุนับร้อย ๆ ปี ที่อดีตเจ้าอาวาสได้บรรจุเอาไว้ภายในไหโบราณ แล้วก็ รักษาต่อ ๆ กันมา เพื่อนำมาผสมกัน ทำเป็นพระสมเด็จสี่หมื่น

ซึ่งเป็น พระที่หลวงปู่สุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส องค์แรกของวัดใหม่สี่หมื่น ได้ทำเอาไว้ เดี๋ยวนี้หายาก และ ไม่มีเก็บไว้ที่วัด แม้แต่องค์เดียว มีอยู่ที่ราษฎรที่ได้นำไปบูชา บางคน นำแขวนคอติดตัว เพื่อคุ้มครองปกป้องภัย มาจนถึงปัจจุบัน

ตำมวลสาร

โดย เมื่อวันที่ 16 มกราคม 66 ก่อนหน้าที่ผ่านมา ซึ่ง เป็นวันครู ทางวัด ได้มี พิธีตำมวลสาร

แล้วก็ กดพิมพ์พระ “สมเด็จสี่หมื่น” รุ่นกรุแตก ภายในอุโบสถ์ของทางวัดใหม่สี่หมื่น มีการนำพิธีโบราณ ผสมกับพิธีตามความเชื่อถือ โดยมีการลำดับขั้นตอน ด้วยการนำคนที่มีชื่อ “นิ ยม ชม ชอบ” ทั้งชาย แล้วก็ หญิง มาประจำครกที่ 1 – 4 พร้อมทั้งนำผู้ที่มีอำนาจวาสนา

ซึ่ง เป็นผู้ใหญ่บ้าน ประจำครกที่ 5 ส่วน กำนันตำบลสี่หมื่น ประจำครกที่ 6 รวมทั้ง นำคนที่เป็นมิ่งขวัญ อายุมั่นขวัญยืน ซึ่ง เป็นผู้สูงอายุ วัย 88 ปี มาตำมวลสาร

มี พระกรุแตก พระผงเก่าแก่ที่เก็บต่อกันมานับร้อยปี ข้าวสาร รวมทั้ง ข้าวเหนียว ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก ในพิธีสำคัญต่าง ๆ โดยทั้ง 7 คน ต่างคนต่างตำมวลสารต่าง ๆ

โดยพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ รวมทั้ง เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นมงคลในขณะที่ทั้ง 7 คน ตำมวลสาร กระทั่งละเอียดเป็นผง ซึ่ง จะเป็นมวลสารขั้นต้น

แล้วต่อจากนั้น นำผงมวลสารช่วงต้น มาเทรวมกันที่ครกที่ 8

ซึ่ง ได้นำผู้ที่มีฐานะ เศรษฐี มีกินมีใช้ มาตำมวลสารขั้นต้นทั้งหมด ให้ผสมเข้ากัน กระทั่งเป็นมวลสารองค์รวม ในลำดับถัดมา ได้นำบุคคลที่มี ความมั่นคง มีความร่ำรวย คนดวงเฮง ๆ คนที่มีชื่อเสียง และ ผู้ที่ถูกรางวัลที่ 1 ลอตเตอรี่ รวมจำนวน 5 คน มานั่งล้อมวงประจำครกที่ 9

ซึ่ง เป็นครกสุดท้าย. โดยก่อนที่ ทั้ง 5 คนจะตำมวลสารนั้น ได้นำมวลสารสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย เกสรดอกไม้ 9 ประเภท , ว่านมงคล 108 , ผงแร่เหล็กน้ำพี้ , น้ำว่านมงคล 108 , กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า , ผงอิทธิเจ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วสารทิศ มาใส่รวมในครกที่ 9

พร้อมทั้งนำมวลสารองค์รวม จากครกที่ 8 มา ผสมรวมกัน และก็ ให้ทั้ง 5 คน ได้ตำมวลสารเป็นจำนวน 1 รอบ ภิกษุ ปริมาณ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ แล้วก็ เจริญชัยมงคลคาถา ในระหว่างตำมวลสาร

ต่อจากนั้น พระครูโสภณจันทรังสี ได้นำกระดานชนวน นำดินสอพอง เขียนอักขระยันต์ ยันต์ตัวหัวใจเศรษฐี ยันต์ตัวนะโมพุทธายะ ยันต์ตัวนะเมตตา ยันต์ตัวนะชาลีติ และ ยันต์ตัวรวย พร้อมทั้งใช้มือปาดลง ในครกที่ 9

และก็ ให้บุคคลทั้ง 5 ช่วยเหลือกันตำมวลสาร กระทั่งเหนียวได้ที่ พร้อมที่จะกดพิมพ์พระ ซึ่ง ใช้เวลาตำมวลสารประมาณ 1 ชั่วโมง

ในขั้นสุดท้าย เจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์พระ นำมวลสารที่ผสมกันได้ที่ จนเหนียวนำมาบรรจุ ทองคำเปลว 100% , จีวรพระเกจิอาจารย์ และก็ เส้นผมพระเกจิอาจารย์ เจ้าอาวาส , ปั้นเป็นก้อนกลม วางลงในแบบพิมพ์พระสมเด็จสี่หมื่น ที่สร้างโดยหลวงปู่สุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส ที่ได้เก็บรักษามากว่า 90 ปี ให้พระครูโสภณจันทรังสี เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันนี้ เป็นประธานในพิธีการ

กระทำการกดพิมพ์ “พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ด้วยมือ พิธีตำมวลสาร ขณะเดียวกันนี้พระ ปริมาณ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ แล้วก็ เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นมงคล และก็ เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เกิดความเข้มขลัง ให้กับคนที่นำไปบูชา ทั้งนี้ มีการกดพิมพ์ “พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ด้วยมือ ชุดนำฤกษ์ จำนวน 449 องค์ และ จะมีการกดพิมพ์ ไป จนถึงครบ 999 องค์

พิธีตำมวลสาร

จากการซักถาม พระครูโสภณจันทรังสี เจ้าอาวาสวัดใหม่สี่หมื่น กล่าวว่า

อาตมา มีความตั้งใจที่จะกระทำตามเจตนาของอดีตเจ้าอาวาส ที่ท่านได้มีความมุ่งมั่นที่จะให้นำพระผง พระบูชา ที่ซุกซ่อนเอาไว้ หากวันข้างหน้า จะมีการซ่อม หรือ สร้างกำแพงแก้ว รอบอุโบสถ์ ขึ้นใหม่

ซึ่ง จำเป็นต้องใช้สาเหตุ เยอะๆเป็นไปตามระยะเวลา ในตอนนี้ ค่าวัสดุต่าง ๆ รวมถึงค่าแรง ค่ารับจ้างเหมางาน มีราคาสูงมากขึ้น จะได้นำพระที่ขุดพบเห็น จากพระที่ดูไม่มีราคา แต่กลับมีคุณค่ามากมาย

ซึ่ง เป็นพระที่เรียกว่า “กรุแตก” ญาติโยมต่างต้องการนำไปบูชา แต่จากการที่ขุดพบ พบว่ามีพระแตก ชำรุดทรุดโทรมจำนวนหลายชิ้น ไม่เพียงพอ ต่อญาติโยม ที่ต้องการ ประกอบกับอาตมา ต้องหาปัจจัย ที่จะมาก่อสร้างกำแพงแก้ว ดังกล่าวด้วย ก็เลยได้จัดสร้าง พระสมเด็จสี่หมื่นขึ้นใหม่ เป็นรุ่น “กรุแตก” เพื่อให้ญาติโยมได้บูชา

พระครูโสภณจันทรังสี กล่าวต่อว่า สำหรับในการ สร้าง พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก ได้จัดสร้างเพียงปริมาณ 999 องค์ แค่นั้น รวมทั้ง ได้จัดพิธีพิมพ์พระด้วยมือ มีการทำพิธีตำมวลสารแบบโบราณ ที่ผสมกับความศรัทธาต่าง ๆ

ทั้งหาบุคคล ชาย หญิง ที่มีชื่อมงคล “นิยม ชม ชอบ” และก็ คนที่มีฐานะมั่นคง มีชื่อเสียง คนมีโชค และก็ คนที่เป็นเศรษฐีมีกินมีใช้ คนดวงโชคดี มาทำพิธีตำมวลสาร เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ และ เป็นมงคลต่อญาติโยมที่นำไปบูชา

“พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ที่เชื่อกันว่า คนที่นำไปบูชาจะเป็นที่ “พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ที่เชื่อกันว่า ผู้ที่นำไปบูชาจะเป็นที่ “นิ ยม ชม ชอบ มีอำนาจวาสนา เป็นมิ่งขวัญ อายุมั่นขวัญยืน มีฐานะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี มีกินมีใช้ มีความมั่นคง ร่ำรวย เฮงๆ และ มีชื่อเสียงโด่งดัง”

แฟนคลับสุดคิดถึง เปิดภาพปัจจุบัน ‘จิ๊บ คีตภัทร’ นางเอกดัง ที่สวยเด่นไม่เปลี่ยนแปลง

จัดเป็นอีกหนึ่งดาราหนังสาวสวยที่คนไม่ใช่น้อยหลงใหลเธอหนักมาก สำหรับสาว จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ฝากผลงานสุดปังเอาไว้เป็นอย่างมาก อาทิ กามเทพลวง, กว่าจะรู้เดียงสา, หมอผีไซเบอร์, เบญจา คีตา ความรัก อื่นๆอีกมากมาย ถึงแม้ปัจจุบันนี้เธอจะไม่ค่อยส่งผลงานแสดงออกทางจอให้ได้เห็นกันเท่าไหร่ แต่บอกเลย แฟนๆรักเธอ และนึกถึงหนักมาก

งานนี้เราเลยไม่พลาด เชิญทำความรู้จักสาว จิ๊บ เบาๆและพาไปชมรูปสวยๆของสาวจิ๊บกัน ที่บอกเลยว่า คุณงาม หุ่นดี และเด่นไม่เปลี่ยนแปลงเลย โดยสาวจิ๊บเกิด|วันที่ 21 พ.ย. พุทธศักราช 2527 เป็นดาราคนประเทศไทยในสังกัดดาราวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว อันติมานนท์ เป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของดาราชายเป็น จิม เจจินตัย แวนดิว

จิ๊บ มีผลงานเรื่องแรก เช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกใน ละครหลังข่าว เรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกเรื่องหนึ่ง ละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้ คีตภัทร เป็นดาราหนังที่รู้จักกัน และเป็นที่รู้จักในสมัยนั้น ถัดมา คีตภัทร รับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการสลับบทบาทเป็นนางร้าย และเป็นดาราหนังที่มีคุณภาพ และมีความสามารถ ด้านการแสดงอีกมากมายนั่นเอง

โดยหลังจาก จิ๊บ เบาๆงานในวงการบันเทิงไป จากทางหน้าจอ ก็ทำเอาแฟนๆนึกถึงหนักมาก พากันมาส่องไอจีของเธอ และบอกรัก บอกคิดถึง รวมทั้งส่องชีวิตสุดปังของเธอ กันอย่างมากมาย

แฟนคลับสุดคิดถึง จิ๊บ คีตภัทร

​​ทำความรู้จัก งามเก่งครบสูตร จิ๊บ คีตภัทร อดีตนางเอกดังยุค 90

เป็นอีกหนึ่งศิลปินสาวสวย ที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานมากๆสำหรับ จิ๊บ คีตภัทรน้องสาวของดาราชายหนุ่ม จิม เจจินตัย อันติมานนท์ โดยทั้ง จิ๊บ และ เจจินตัย เป็นดาราหนังที่มีชื่อเสียงมากมายในยุค 90 ถ้าหากใครเคยดูละครดังช่อง 7 อย่างเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก หรือ กว่าจะรู้เดียงสา มั่นใจว่าต้องคุ้นตา จิ๊บ คีตภัทรวันนี้ เราจะพามาทำความรู้จักจิ๊บ คีตภัทร กันอีกที เผื่อใครที่ยังไม่รู้จัก หรือ จำสาวคนนี้ไม่ได้

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ

กำเนิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2527

เป็นนักแสดงชาวในสังกัดนักแสดงวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

จิ๊บ คีตภัทรเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

เป็นบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์

จิ๊บ เป็นนักแสดงสาวคนประเทศไทยซึ่งเป็นน้องสาวของ ดาราชายเป็น จิม เจจินตัย อันติมานนท์

สำหรับเรื่องของการเข้าวงการบันเทิงของจิ๊บ คีตภัทร นั้น คุณเริ่มเข้าวงการสายบันเทิงไทย เป็นดาราในสังกัดศิลปินวิดีโอ และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

และมีผลงานเรื่องแรกยกตัวอย่างเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในหน้าที่ แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกเรื่องหนึ่งละครเรื่อง ลูกหลง ซึ่ง จิ๊บ มีผลงานโดยตลอด ทำให้คุณเป็นดาราที่รู้จักกัน และเป็นที่รู้จักในสมัยนั้น และอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้คุณเป็นที่รู้จักคือเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก ซึ่ง จิ๊บ รับงานละครหลายๆเรื่องและเป็นการพลิกบทเป็นนางร้ายและเป็นดาราที่มีคุณภาพ และมีความสามารถด้านการแสดงอย่างมาก

พักหลังๆเธอได้เฟดตัวออกมาจากวงการบันเทิง และยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวพร้อมกันไปด้วย และยิ่งกว่านั้น จิ๊บ ยังเป็นพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารไทย ที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle อเมริกา อีกด้วย จะต้องพูดว่า สาวคนนี้ ทั้งสวย มากความสามารถ ครบสูตรจริงๆ

ที่สวยเด่นไม่เปลี่ยนแปลง

“จิ๊บคีตภัทร” จ่อฟ้อง! สับเละคนปล่อยข่าว นางเอก จ. กระทบครอบครัว-แฟน

หลังจากที่ผู้ใช้ ติ๊กต๊อก รายหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนหนุ่มอัดคลิปแบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็วๆ นี้เจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวแน่นอน”

ต่อมา ก็ได้โพสต์อีกว่า “โดนแล้ว! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเองที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที เห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่นไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”

กระทั่งทำให้ชาวเน็ตแอบทายกันไป ต่างๆนานา ว่าอดีตนางเอกจ. ช่องหลากสีเป็นใคร ซึ่งหนึ่งในนั้นแอบมีคนผุดชื่อขึ้นมา ว่าใช่ “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” ดาราสาวยุค 90 หรือไม่ ทำให้วันนี้ (13 ม.ค.) เจ้าตัวจำเป็นต้องรีบออกมาแจกแจงผ่านไอจี ว่าตนเองไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่แท้ พร้อมจะฟ้องตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิและ ความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

“แมทธิว – ลีเดีย” รับมือ “น้องเดมี่” วัยทอง 2 ขวบ งอแง แสบ ไม่ชอบไปโรงเรียน ไม่รัก “ใหม่ ดาวิกา”

“แมทธิว – ลีเดีย” ช็อต “น้องเดมี่” บอก หนูไม่ชอบไปสถานที่เรียน หยุมไหล่ “ใหม่ ดาวิกา” เพราะเหตุว่ามีแมลง ช่วงนี้พี่ใหม่ไม่สวย และ ไม่รักแล้ว ลีเดียเปิดเผยความแสบของลูก พร้อมต่อกรกับลูกสาวในวัยทอง 2 ขวบ

ทำแฟนคลับเอ็นดูไปตาม ๆ กัน กับภาพ “น้องเดมี่” ไปสถานศึกษาแล้วร้องไห้ ที่พ่ออย่าง “แมทธิว ดีน” เอามาแชร์ ในอินสตาแกรม ท่ามกลางน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ซึ่ง ปัจจุบันเจอครอบครัว แมทธิว และ “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน” ภรรยา ที่มาพร้อมน้อง เดมี่ ที่งาน THE ICONIC CHILDREN’S PLAYGROUND 2023 @ICONSIAM ก็ได้เปิดเผยถึงประเด็นนี้ โดย เดมี่ กล่าวเต็มปากว่า หนูไม่ชอบไปโรงเรียน

แมทธิว : “ก็มีบางวัน เห็นเด็กคนอื่นร้องไห้ ก็จะร้องตาม”

ลีเดีย : “คือ เวลาจะลา พ่อ แม่ จะกลับบ้าน เขาก็จะร้องไห้นิดหน่อย ที่ต้องแยกกัน”

แมทธิว : “จริง ๆ แล้ว เปิดเทอมสองแล้วแหละครับ เทอมแรกจะยากนิดนึง เพราะว่า ไม่เคยไปเลย ตอนแรกก็กลัวนะ แต่ว่าจริง ๆ แล้วช่วงแรก ๆ ง่ายกว่าที่คิด เหมือนว่าเขาได้เจอเพื่อนหลายคน ได้เจอกับกิจกรรมใหม่ ๆ มันก็เลยไม่ค่อยยาก แต่ว่าพอไปสักพักหนึ่ง เขาก็เริ่มจะรู้แล้วว่า วันนี้จะไม่ค่อยได้อยู่กับ พ่อ แม่ จะเจอกันอีกที ก็หลายชั่วโมง ก็จะเริ่มงอแงเล็กน้อย เดมี่ ชอบไปโรงเรียนไหมคะ”

เดมี่ : “ไม่ ไม่ชอบไปโรงเรียน”

แมทธิว : “เดมี่ มีเพื่อนเยอะไหม ชื่ออะไรบ้าง”

เดมี่ : “ชื่ออึช้าง ไปโรงเรียนไม่สนุก”

แมทธิว : “พอดีเขาไปเชียงใหม่มาครับ มีที่ ที่ เขาเอาอึช้าง มารีไซเคิลเป็นกระดาษ ก็พาเขาไปเรียนรู้ เกี่ยวกับธรรมชาติ เขาชอบมาก ติดใจอึช้าง”

ลีเดีย : “พูดอึช้างทั้งวัน ถามอะไรไปก็จะก็ตอบว่า อึช้าง”

2 น้องเดมี่

น้องเดมี่ แสบ งอแง ตามประสาเด็ก ในวัยทอง 2 ขวบ

ลีเดีย : “ตอนนี้เริ่มพูดเยอะ แต่ก็เป็นวัยทอง ของเด็กในช่วง อายุ 2 – 3 ขวบล่ะค่ะ จะแสบ งอแงนิดนึง บางวันเขาก็จะโอเค บางวันก็จะงอแงกว่าปกติ แล้วแต่วันค่ะ ถามว่าใครแสบกว่ากัน เดมี่ คนนี้แสบสุด เพราะ ดีแลน โตแล้ว เขาก็จะยอมน้อง เมื่อกี้ก็โดนน้องรังแกบนเวที เขาก็ยืนนิ่ง เขาเป็นพี่ ก็จะรู้ว่าน้องอายุน้อยกว่า ก็จะยอม ๆ เขาบ้าง เราก็ต้องคอยสอน เดมี่ มากกว่าเพราะว่าคนพี่ เขาก็จะรู้แล้วว่า อะไรเป็นอะไร ต้องทำยังไง แต่ กับคนน้องยังต้องคอยบอก ว่าอย่าตีพี่ อย่าเตะพี่ เขาเล่นแรง ก็จะคอยสอนเขา มีอะไรต้องรักกันนะ”

แมทธิว : “คนพี่ก็ไม่ได้อยากให้เขายอมตลอดนะ อยากให้เขาคุยกันด้วยเหตุผล ถ้าเป็นสิ่งที่น้องอยากได้ ก็อาจจะแชร์ก่อน ขอพี่เล่นนิดนึงนะ แล้วเดี๋ยวค่อยแชร์ให้ เพราะว่าถ้าเกิดพี่ต้องยอมน้องตลอด มันก็น่าสงสารคนพี่”

ลีเดีย : “ก็ต้องดูด้วยว่าน้องมีเหตุผลขนาดไหน ไม่ใช่ว่าตีเอา ๆ แล้วยอม ก็ต้องสอนทั้งคู่แหละค่ะ พ่อ แม่ ก็ต้องคอยอยู่ตรงกลาง”

มั่นอกมั่นใจ ลูกคนเล็ก ก็จำต้องแสบ ราวกับพี่ของเขา

ลีเดีย : “คนเล็กตอนนี้ ยังไม่ค่อยมีฤทธิ์เท่าไหร่ เพราะว่าก็ยังนอน กับ กินอย่างเดียว แล้วพี่สองคนก็ดูรักน้องดี จะมีเข้าไปช่วยอาบน้ำน้อง ให้นมน้อง ก็โอเค แต่ว่า โตขึ้นมา เดีย ว่าก็คงแสบอยู่เหมือนทั้งสองคน ที่เป็นพี่ นี่แหละค่ะ”

3 น้องเดมี่

ขำ ๆ แกง เดมี่ นอนกรน

ลีเดีย : “เขาเล่นอะไรเหนื่อยมาก นั่งคาร์ซีท แล้ว กรนเสียงดังมาก แอบถ่าย(หัวเราะ) ปกติไม่กรน แต่ด้วยท่านั่ง คอเขาพับแค่ยกคอขึ้น ก็ไม่กรนแล้ว เราเห็นตลกดี มันเสียงดังมาก”

หยุมไหล่ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” เนื่องจาก มีแมลง

ลีเดีย : “เดมี่ขา เดมี่ หยิกพี่ใหม่ทำไมคะ”

เดมี่ : “อยากหยิก”

ลีเดีย : “มันมีอะไรติดแขนพี่ใหม่”

เดมี่ : “มีแมลง”

จากที่เคยบอกหยิกใหม่ เพราะเหตุว่า ใหม่สวยกว่า แต่ในตอนนี้ บอกใหม่ไม่สวยแล้ว รวมทั้ง ไม่รักแล้วด้วย

เดมี่ : “ไม่รัก (พี่ใหม่สวย?) ไม่สวย เดมี่ สวย พี่ใหม่ ไม่สวย”

แมทธิว : “ตอนอยู่บ้านเขาบอกพี่ใหม่สวยนะ”

ลีเดีย : “คือ ใหม่จะเจอลูก ๆ ตั้งแต่รุ่น ดีแลน มาเจอ เดมี่ ครั้งแรกที่งานนั้น เขาคงเห็นคนเยอะ แล้วคึกมากวันนั้น เจอ พี่ใหม่ วันนั้นคึกคนเยอะแล้วเขาแฮปปี้ อาการอยากเล่นแหละ พี่ใหม่ เขาน่ารักอยู่แล้ว เหมือนครั้งแรกที่เจอกับ ดีแลน แล้วก็กอด ดีแลน ดีแลน ก็ชอบคนสวย เขิน เข้าไปจูบพี่ใหม่ ไปไหนก็มีคนแซวบ้าง คือ เราก็ไม่ได้สอนให้เขาไปหยิก เขาอยากเล่นก็ไปจับแขน เขาจับพ่อเขาก่อน แล้วเห็นพี่ใหม่ก็ไปจับ แต่ด้วยรูปที่เป็นภาพนิ่ง มันดูแบบ(หัวเราะ) แต่ว่า เขาไม่รู้หรอกว่าหยิก คือ อะไร??”